บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม 12, 2018

อุปสรรคที่ขวางกั้นการยกระดับ

รูปภาพ
การยกระดับนั้นดูเหมือนง่ายแต่ทำจริงแล้วยากครับ หลายท่านยังยกระดับไม่สำเร็จ ทำได้แค่ “รู้หรือเข้าใจ” เท่านั้นเอง แต่เมื่อผ่านด่านทดสอบก็ไม่สำเร็จครับ อนึ่ง คุณต้องเข้าใจด้วยว่าการเลื่อนระดับเป็นเรื่องของวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ ไม่ใช่การใช้สมองนั่งคิด, นั่งเข้าใจอะไร ดังจะอธิบายในบทความต่อไปนี้ครับ ๑ ได้รับอะไรจากประเทศมากไป เหมือนนกเวลาจะบิน ขึ้น ที่สูง หากมีภาระมากบินไม่ ขึ้น ใช่ไหมครับ? เช่นกัน คนเรานั้น หากได้รับอะไรมากเกินไป เมื่อ ถึง เวลาจะเลื่อนระดับ ขึ้น สูง เช่น จากระดับประเทศไประดับโลกจะไปไม่ไหว จะได้แค่ระดับชาติ เพราะอะไร? เพราะติดหนี้ มีภาระหนี้ที่ได้รับจากแผ่นดินนั้นๆ มากเกินไป ดังนั้น คนที่เกิดมาจนแทบไม่ได้อะไรจากประเทศนี้เลย “ยิ่งดีและโชคดี” มากๆ ครับ เพราะคุณจะยกระดับคุณได้ง่ายและเร็วกว่าคนที่ได้รับอะไรมากมายจากประเทศของตน เคล็ดลับที่สำคัญในการยกระดับอยู่ตรงนี้เองคือ “เกิดมาจนๆ ไว้ก่อน” นี่คือ สิ่งที่ช่วยลดภาระในการยกระดับของคุณ เมื่อคุณผ่านการยกระดับแล้ว ค่อยร่ำรวยภายหลังก็ยังได้ครับ ๒ ความกลัวตาย ไม่กล้าที่จะตาย นี่ก็เ ป็นอุปสรรคที่สำคัญมาก ที่พบในกา

พลังความไม่เชื่อที่เหนือกว่าพลังแห่งความเชื่อ

รูปภาพ
หลายท่านเคยอ่านเรื่อง “พลังแห่งความเชื่อมั่น” มาแล้ว ทว่า หลายท่านอาจไม่ทราบว่านอกจากพลังแห่งความเชื่อมั่นแล้วยังมีพลังแห่งความไม่เชื่อด้วยและพลังนี้เหนือกว่าพลังแห่งความเชื่อครับ มีจริงหรือเป็นไปได้อย่างไร? ในบทความนี้จะขอนำมาอธิบายขยายความให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้พิจารณา ดังต่อไปนี้ครับ ๑ ทำไมพลังแห่งความไม่เชื่อจึ ง เหนือกว่า? คำตอบง่ายมากครับ เพราะว่า “สิ่งที่ไม่ควรเชื่อ มีมากกว่าสิ่งที่ควรเชื่อ” เมื่อคุณใช้พลังแห่งความไม่เชื่อแล้ว คุณก็จะใช้มันได้มากกว่า กับหลายคน หลายสถานการณ์มากกว่า ยังไงละครับ หากยังไม่เห็นภาพ ลองคิดดูว่าการยิงเป้าให้ถูกจริงๆ แค่จุดเดียว ยากแค่ไหน? จุดที่ถูกมีจุดเดียว ส่วนจุดอื่นๆ ผิดหมดเลยมีนับไม่ถ้วน จริงไหมครับ? จุดที่ถูกก็เหมือนจุดที่เราควรใช้พลังแห่งความเชื่อน่ะละ ส่วนจุดที่ไม่ถูกคือจุดที่เราควรใช้พลังแห่งความไม่เชื่อครับ เมื่อใดที่เราใช้พลังแห่งความเชื่อกับสิ่งที่ไม่จริง สิ่งหลอกลวง เมื่อนั้นเราก็หลอกตัวเอง และเราจะไม่มีทางประสบความสำเร็จหรือร่ำรวยได้อย่างแท้จริงได้เลย เพราะสิ่งที่เราเชื่อ มันไม่จริงไงครับ ๒ พลังแห่งความไม่เชื่อกับการขาด

ธรรมะก็มีวาระของมัน?

รูปภาพ
ธรรมะแม้มีแก่นแท้เดียวกันแต่ด้วยรายละเอียดที่ต่างกัน ก็เหมาะต่อการโปรดสัตว์ในยุคต่างกัน ธรรมะแต่ละอย่างจึ ง มียุคสมัยต่างกันด้วย หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าพระธรรมนั้นมีอยู่แบบเดิมตลอด แท้จริงแล้วสัจธรรมนั้นคงเดิม แต่พระธรรมที่ใช้โปรดสัตว์จะมีวาระและเปลี่ยนไปได้ ดังจะอธิบายในบทความต่อไปนี้ ๑ พระพุทธเจ้าและธรรมล้วนมีวาระ คนเรามีวาระความพร้อม สุกงอมไม่เท่ากัน ดังนั้น บางอย่างต้องรอเวลา ไม่ใช่อยากจะให้ใครรู้ธรรมะก็ได้ ไม่ใช่ครับ ถ้าเขาไม่พร้อมที่จะได้รับธรรมก็ให้รู้ไม่ได้ ดังนั้น ธรรมบางอย่างจะต้องมีการ “ปิดไว้ก่อน” อาทิเช่น ธรรมในอวตังสกสูตร ถูกเก็บไว้ในเมืองบาดาลมีพญานาคดูแลยาวนานเป็นพันปี กว่าจะได้รับการเปิดออก ธรรมในสัทธรรมปุณฑริกสูตรก็มีวาระที่จะเปิดเผยในช่วงกลางพุทธกาลนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่อาจเปิดเผยได้ เพราะยังไม่ใช่วาระ มวลมนุษย์ยังไม่พร้อม และยังไม่มีใครมีบุญวาสนาจะได้รับ แม้ว่าแก่นแท้แห่งธรรม ไม่ต่างกัน แต่รายละเอียดของธรรมมีความต่างกันอยู่ จึ ง ไม่อาจใช้ธรรมะอดีตมาแทนธรรมปัจจุบันได้ครับ ๒ ธรรมในอดีตที่ได้รับการเปิดเผย “ธรรมมหายาน” เ ป็นธรรมสายพระอามิตาภพุทธเจ้า พ

ร่ำรวยด้วยพลังมืดอย่างถูกวิธี

รูปภาพ
หลายท่าน ฝึก พลังจักรวาลและการจูนพลังความถี่ มักชอบติดอยู่กับระบบความคิดแบบ “ข้อสอบปรนัย” คือ การเลือกตัวเลือกที่ถูกที่สุด แล้วตัดตัวเลือกอื่นทิ้งไป หลายคนก็เลือกแต่สิ่งดีๆ พลังด้านดี, พลังด้านบวก, พลังภาคสว่าง ฯลฯ ทำให้เข้าใจโลกด้านเดียว ในบทความนี้จะขออธิบายโลกอีกด้าน ดังต่อไปนี้ครับ ๑ การใช้พลังมืดที่ผิดวิธีคือ? หลายคนอยากรวยเร็วๆ ก็เข้าสู่ภาคมืดและใช้พลังมืดครับ เช่น คนที่แลกวิญญาณกับซาตาน ก็จะร่ำรวยได้ แต่พวกเขาจะต้องกลายเป็นทาสซาตาน ซึ่ง ไม่คุ้มกันเลยครับ ในบทความนี้จึ ง ได้นำเรื่องการใช้พลังมืดให้ถูกวิธีมาอธิบายให้ฟัง เพราะในลัทธิเต๋าก็มีหลักการใช้พลังดำหรือพลังมืดเช่นกัน เรียกว่า “เต๋าหมวกดำ” หรือในพุทธก็มี ที่เรียกว่า “ห่มกลักดำหรือจีวรดำ” แท้แล้วสรรพสิ่งไม่เที่ยง ไม่ใช่อัตตาตัวตน เราเพียงแค่เรียนรู้แล้วผ่านไปให้ได้ หลายคนเรียนรู้ผิดพลาดเลยผ่านไม่ได้ เพราะใช้พลังมืดดำผิดวิธีนั่นเอง ในบทความนี้ได้นำแนวทางในการใช้พลังอีกด้านที่ตรงข้ามกับด้านสว่าง คือ ด้านมืดมาเพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ศึกษากัน ๒ ทำไมเราต้องใช้พลังมืด? แท้แล้วเรามีทั้งสองด้านครับ ทั้งด้านดีและไม่

การจูนคลื่นความถี่พลังที่แม่นยำ

รูปภาพ
หลายท่าน ฝึก พลังจักรวาลและการจูนพลังความถี่โดยใช้ความรู้สึกเป็นสำคัญ ทว่า สิ่งที่ทำอยู่ยังไม่ถูกต้องนักครับ ทำให้ยังไม่สามารถนำพลังจักรวาลมาใช้ได้ผลนัก ในบทความนี้จะขอนำเรื่องราวของการจูนคลื่นความถี่พลังงานที่ถูกต้อง แม่นยำ มาเรียนรู้ร่วมกัน เพราะมันจะช่วยยกระดับจิตของเราได้ ดังต่อไปนี้ครับ   ๑ การจูนคลื่นความถี่แบบกว้าง เช่น ความคิดเชิงบวก, ความรัก ฯลฯ แบบนี้เป็นการจูนคลื่นพลังแบบกว้างๆ ครับ เพราะใครๆ ก็มีความรักได้ ไม่ว่าจะเป็นเทพ, มาร หรือปีศาจ ดังนั้น เมื่อเราจูนกับพลังแห่งรักได้ มันก็จะเป็นการจูนแบบกว้างๆ ยังไม่แม่นยำ ไม่เฉพาะเจาะจงลงไป ทว่า มันคือ จุดเริ่มต้นแรก ที่เราจะเข้าใจคำว่า จูนคลื่นความถี่ให้ตรงกัน เราจะต้องเริ่มต้นจากการหัดจูนคลื่นความถี่แบบนี้ให้ถูกต้องก่อน บางคนยังจูนไม่เป็น เช่น ยังใช้การคิดเอา แทนพลังงานความถี่จริงๆ พลังงานความถี่จริงๆ นั้นมาจากจิต จิตคือพลังงาน ไม่ได้มาจากสมอง ไม่ได้มาจากการคิดเอา แม้สมองจะมีคลื่นความถี่ของความคิด แต่หากเราใช้สมองแทนจิต มันจะเกิดปัญหาได้ครับ ๒ การจูนคลื่นความถี่แบบแคบ เช่น หาก นาย ก. มีพลังของพระศิวะ เราไ ปจูนคล

การสำรอกอวิชชาเป็นอย่างไร?

รูปภาพ
การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่สำคัญเลยว่าเราจะเก่ง จะรู้ธรรมะ จะเข้าใจธรรมะ จะกล่าวธรรมะได้มากกว่าใครแค่ไหน? ที่สำคัญคือ “เราสำรอกอวิชชาได้แค่ไหน” เราเอือมระอาต่อทางโลกได้มากแค่ไหน? นี่ต่างหาก หลายคนปฏิบัติธรรมแล้วเอาแต่ “กูรู้” กูรู้ๆ แข่งกัน แต่ชีวิตจริงยังจมปลักอยู่กับทางโลกเหมือนเดิมดังต่อไปนี้ครับ ๑ ความสมดุลของสองสิ่งสำคัญ สองสิ่งสำคัญคือ “พละห้าที่เข้มแข็งพอเผชิญหน้ากับความจริง” และ “ความจริงที่ทำให้สำรอกอวิชชาได้” นี่คือ สองอย่างที่ต้องสมดุลกัน หากพละห้าไม่เข้มแข็งพอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว จะเกิดอาการ “ถีนะมิทธะ” ในแบบต่างๆ เช่น หมดเรี่ยแรง หมดอาลัยตายอยาก เหมือนจะตายเอาให้ได้ ไม่อยากอยู่แล้ว แต่ถ้าพละห้าเข้มแข็งมากๆ แต่ความจริงที่ต้องเผชิญมันอ่อนเกินไป ผลคือมันจะไม่เกิดอะไรไม่ได้ผลนั่นเอง การสำรอกอวิชชาก็จะไม่เกิด คนๆ นั้นก็จะหลงในวิชาของตน คิดว่ามันคือปัญญา นี่คือ สัจธรรมความจริงนี้ไม่มีพลังมากพอจะทำให้เกิดการสำรอกอวิชชาออกมาได้ เหมือนหมอผีไม่เก่งพอเลยไล่ผีออกมาไม่ได้น่ะละ ๒ พละห้าจะต้องเข้มแข็งมากพอ คนบ้าและคนที่ฆ่าตัวตาย บางทีอาจเพราะเขาเผชิญหน้ากับคว

การจัดระเบียบโลก : ระบบพลังภาคพื้นโลก

รูปภาพ
หลายท่านคงได้ทราบข่าวเรื่องการปรับเปลี่ยนพลังงานใหม่จากหลายๆ บทความแล้ว บทความต่อไปนี้ จะขอกล่าว ถึง การจัดระเบียบโลกเพื่อสร้างโลกใหม่ โดยโฟกัสมาที่เรื่องระบบพลังภาคพื้นโลกครับ เนื่องจาก หลายท่านยังไม่เข้าใจและเรื่องนี้ค่อนข้างยากและซับซ้อนแต่เกี่ยวข้องกับพวกเราโดยตรง ดังต่อไปนี้ครับ ๑ ระบบพลังของโลกมีหลายชั้น ดังที่เราทราบจากพุทธศาสนาว่าสวรรค์มีหกชั้น ระบบพลังงานของโลกมีหลายชั้นด้วยเหตุนี้ ทว่า ในยุคนี้ จะมุ่งเน้นมาที่ระบบพลังงานภาคพื้นดินหรือสวรรค์ชั้นที่ หนึ่ง เป็นสำคัญ ซึ่ง เป็นมิติที่ทับซ้อนกับโลกมนุษย์ ผลคือ จะทำให้มนุษย์ที่ตายลงแล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ หนึ่ง เป็นส่วนใหญ่ ส่วนสวรรค์ชั้นสูงๆ นั้น ไม่ค่อยได้กันครับ หลายคนมักหลงคิดว่าตัวเองจะนิพพานแล้ว จะไม่เอาสวรรค์แล้ว ทว่า แท้จริงแล้วไม่ถูกต้องฮะ ผู้เขียนทำงานร่วมกับทีมงานที่สื่อสารสองมิติ ได้พบพระอรหันต์สมัยพุทธกาลที่ละสังขารแล้วไม่ได้หายไปไหน แต่ท่านยังเป็นจิตวิญญาณที่ดำรงอยู่ในภาคพื้นโลกเรานี่เอง คอยดูแลพุทธศาสนาอยู่เป็นจำนวนมาก ๒ อิสรภาพแบบหลุดจากระบบ ผู้ ปฏิบัติธรรมได้ถูกต้องนั้นจะเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัว ไ