ธรรมะก็มีวาระของมัน?
ธรรมะแม้มีแก่นแท้เดียวกันแต่ด้วยรายละเอียดที่ต่างกัน
ก็เหมาะต่อการโปรดสัตว์ในยุคต่างกัน ธรรมะแต่ละอย่างจึงมียุคสมัยต่างกันด้วย
หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าพระธรรมนั้นมีอยู่แบบเดิมตลอด
แท้จริงแล้วสัจธรรมนั้นคงเดิม แต่พระธรรมที่ใช้โปรดสัตว์จะมีวาระและเปลี่ยนไปได้ ดังจะอธิบายในบทความต่อไปนี้
๑ พระพุทธเจ้าและธรรมล้วนมีวาระ
คนเรามีวาระความพร้อม
สุกงอมไม่เท่ากัน ดังนั้น บางอย่างต้องรอเวลา ไม่ใช่อยากจะให้ใครรู้ธรรมะก็ได้
ไม่ใช่ครับ ถ้าเขาไม่พร้อมที่จะได้รับธรรมก็ให้รู้ไม่ได้ ดังนั้น
ธรรมบางอย่างจะต้องมีการ “ปิดไว้ก่อน” อาทิเช่น ธรรมในอวตังสกสูตร
ถูกเก็บไว้ในเมืองบาดาลมีพญานาคดูแลยาวนานเป็นพันปี กว่าจะได้รับการเปิดออก
ธรรมในสัทธรรมปุณฑริกสูตรก็มีวาระที่จะเปิดเผยในช่วงกลางพุทธกาลนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่อาจเปิดเผยได้
เพราะยังไม่ใช่วาระ มวลมนุษย์ยังไม่พร้อม และยังไม่มีใครมีบุญวาสนาจะได้รับ แม้ว่าแก่นแท้แห่งธรรม
ไม่ต่างกัน แต่รายละเอียดของธรรมมีความต่างกันอยู่ จึงไม่อาจใช้ธรรมะอดีตมาแทนธรรมปัจจุบันได้ครับ
๒ ธรรมในอดีตที่ได้รับการเปิดเผย
“ธรรมมหายาน”
เป็นธรรมสายพระอามิตาภพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าในอดีตที่จบกิจในโลกนี้แล้ว ธรรมในอดีตนี้ได้รับการถ่ายทอดสู่โลกด้วย
มวลมนุษย์รับธรรมในอดีตได้ ทว่า จะนำมาใช้ปรับเข้ากับโลกปัจจุบันไม่ได้
ก็เลยต้องแยกตัวอยู่ต่างหากจากทางโลก เช่น บวชเป็นพระ เป็นต้น ธรรมะจากสายธรรมในอดีตจึงต้องเป็นเช่นนี้
เมื่อมีผู้ปฏิบัติแล้วสำเร็จมรรคผลก็จะไปสู่สุขาวดี จะไปชั่วคราวครับ เพราะอะไร?
เพราะจิตวิญญาณของเขานั้นยังมีภารกิจในโลกนี้อยู่ ต่อให้สำเร็จธรรมของพระอามิตาภะ
แต่ก็ไปสุขาวดีได้แค่ชั่วคราว แล้วจึงกลับมาเกิดในโลกนี้อีกครั้ง
เพื่อทำกิจของตนที่คั่งค้างอยู่ในโลกให้สำเร็จ ก่อนที่จะกลับสู่บ้านที่แท้จริงครับ
๓ ธรรมปัจจุบัน โลกธาตุจะหวั่นไหว
เมื่อใดที่ธรรมปัจจุบันได้รับการเปิดเผย
เมื่อนั้น ธาตุทั้งสี่ในโลกจะแปรปรวน จะสะเทือนเลื่อนลั่นหวั่นไหว ด้วยเป็นวาระที่มิติต่างๆ
จะได้รับการเปิดออกมาและเข้าสู่กระบวนการชำระล้างครับ และเพราะเหตุนี้ เราจะเปิดเผยธรรมปัจจุบันก่อนเวลาไม่ได้
กลางพุทธกาลนี้เป็นวาระของ “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” แล้ว
และเราจะสังเกตุได้ว่าโลกมีความแปรปรวนของธาตุทั้งสี่ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ฯลฯ
เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย นี่ละ สัญญาณบ่งบอกว่าธรรมปัจจุบันได้รับการเปิดเผยแล้ว
และธรรมปัจจุบันนั้นแหละที่จะแก้ไขปัญหาของโลกได้อย่างแท้จริง
ธรรมอดีตและธรรมอนาคตไม่อาจใช้ได้เลย นอกจากนี้ เทพเทวดาจะคุ้มครองผู้มีธรรมด้วย
๔ ทำไมมีพระพุทธเจ้าหลายยุค?
เคยสงสัยไหมครับ ทำไมต้องมีพระพุทธเจ้ามาเกิดหลายๆ
ยุค ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้าจะทรงอยู่ต่อนานๆ ก็ได้ ทำไมไม่อยู่ยาวๆ เลยละ? คำตอบคือ
เพราะเหตุปัจจัยต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
มวลมนุษย์ที่มาเกิดล้วนมีบุญกรรมทำร่วมกันมากับพระพุทธเจ้าในอนาคตย่อมไม่อาจให้พระพุทธเจ้าองค์เดียวโปรดสัตว์ทั้งหมดได้
ดังนั้น พระพุทธเจ้าจำต้องมีหลายองค์, หลายยุค
ธรรมะต้องมีวาระของมันแม้ว่าจะมีแก่นแท้เดียวกันก็ตาม แต่ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น
ทำให้โลกจะต้องมีพระพุทธเจ้ามาโปรดหลายๆ องค์ หลายๆ ยุค
และยังต้องมีธรรมที่แตกต่างกันในแต่ละยุค มีวาระของมันเอง และไม่อาจเปิดเผยธรรมก่อนเวลาได้
๕ ทำไมต้องเป็นสัทธรรมปุณฑริกสูตร?
ธรรมของพระสมณโคดม จะค่อยๆ เปิดเผยและใช้เป็นลำดับ
จากธรรมสายเถรวาท เซนที่มุ่งเน้นโปรดสัตว์ในกลุ่ม “สาวกยาน”
ที่จะมุ่งเน้นเรื่องนิพพาน ต่อมาจะเริ่มเข้าสู่ยุคของอวตังสกสูตร และมุ่งเน้นไปที่โพธิจิตแทน
เนื่องจากเป็นการโปรดสัตว์ในกลุ่ม “โพธิยาน” เมื่อถึงกลางพุทธกาล
สัตว์ในกลุ่มโพธิยานจะเบิกบานเหมือนดอกบัวบาน จังหวะนั้นเองธรรมที่ได้รับการเปิดเผยออกจะเป็น
“สัทธรรมปุณฑริกสูตร” จวบจนวาระปิดยุคธรรมกาลห้าพันปี ยามนั้น พระสมณโคดมจะแสดงธรรมเองอีกครั้งด้วยการรวมธาตุของพระองค์
แต่มนุษย์จะไม่ได้เห็นท่านอีกเพราะจิตเสื่อมต่ำมาก
จะมีแต่เทพเทวดาเท่านั้นที่จะรับรู้หรือฟังธรรมนั้นได้ครับ
ยิ่งเวลาเนิ่นนานออกไป มนุษย์ยิ่งโปรดได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น