บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน 3, 2018

คนหลงโลกห้าแบบ?

รูปภาพ
หลายคนที่ยังไม่ ถึง วาระที่จะหลุดพ้นย่อมจะหลงโลก หลงทางเป็นธรรมดา แม้จะพยายามปฏิบัติธรรมแต่ก็ไม่สำเร็จมรรคผล อันนี้ไม่ผิดอะไรนะครับ และไม่ใช่ความถูกต้องอะไรด้วย ในบทความนี้ จะขอยกตัวอย่างให้อ่านกันเป็นเบื้องต้นห้าแบบ ที่มักพบเจอบ่อยๆ ในชีวิตจริงและสามารถสังเกตุเห็นได้ ดังต่อไปนี้ครับ ๑ หลงกระแสโลก กลุ่มนี้ดูได้ง่ายที่สุด ทว่า เดี๋ยวนี้กระแสโลกนั้นมิได้มีแค่ทางโลกอย่างเดียว ในทางธรรมก็มีกระแสโลกไหลบ่าเข้าไปด้วย อย่างไรหรือ? ก็คือ คนที่บวชพระก็ดี, ปฏิบัติธรรมห่มขาวก็ดี ฯลฯ จะหลงทางไปสู่ทางโลกได้เช่นกันเช่น ถูกยกย่องให้สูง เป็นนั่นเป็นนี่, ได้รับตำแหน่งเงินทอง, มีบริวารบ่าวไพร่ห้อมล้อม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นเครื่องหลอกล่อทางโลกทั้งสิ้น มิใช่ทางธรรม มิใช่ทางหลุดพ้น แต่หลายคนก็หลงเข้าไปติดอยู่ ทำให้มองผิวเผินแล้วเหมือนว่าพวกเขาจะสำเร็จธรรมขั้นสูงแล้ว ได้รับการยอมรับจากคนมากมายแล้ว ทว่า พวกนี้ก็ยังไม่ ถึง วาระหลุดพ้น เมื่อยังไม่ใช่วาระของพวกเขา จึ ง ต้องมีการหลอกให้แนบเนียนเหมือนว่าใช่ครับ ๒ หลงว่าตนมีกรรมมาก กลุ่มนี้พบมากในชาวไทยพุทธ พวกเขาจะตอกย้ำความเชื่อตัวเองอยู่ซ้

ธรรมะแท้ต้องมีลักษณะอย่างไร?

รูปภาพ
ในบทความก่อนได้ยกตัวอย่างธรรมะลวงโลกห้าแบบไปแล้ว เพื่อให้ผู้อ่านมีพื้นฐานในการเรียนรู้ธรรมะที่ดี ในบทความนี้จะขอกล่าวต่อในเรื่องธรรมะที่แท้จริงกันบ้างว่ามีลักษณะอย่างไร? เพื่อให้ท่านผู้อ่านแยกแยะระหว่างธรรมะลวงโลกกับธรรมะที่แท้จริงได้ ด้วยวิธีง่ายๆ พื้นๆ เป็นเบื้องต้นห้าประการ ดังต่อไปนี้ครับ ๑ ธรรมะแท้ต้องใช้ได้จริง ของเก๊ย่อมใช้ไม่ได้จริงหรือใช้ได้จริงก็ขาดคุณสมบัติ ไม่เหมือนของจริงที่ใช้ได้จริงครับ อย่าดูแต่เ ปลือกนอก อย่าตัดสินที่ความน่าศรัทธา แบบนั้นมันละครน้ำเน่าครับ คนมาเล่นละครให้ดูน่าหลงใหลเคลิ้บเคลิ้ม เราก็โดนของเข้าพอดี ของอะไร? ของที่ทำให้รักให้หลง ให้งมงาย ให้โง่เง่า ยังไงละครับ ทีนี้ ก็ไม่ได้พิสูจน์แล้วว่าธรรมะนั้นใช้ได้จริงหรือเปล่า? หรือสวยแต่เปลือกนอกเหมือนกระเป๋าปลอม? คำว่าใช้ได้จริงคือ ประยุกต์ใช้แก้ปัญหาชีวิตเราได้จริงๆ เช่น ท่านอิคคิวซังใช้ธรรมะพื้นๆ แต่ช่วยคนได้จริง ไม่ต้องมีธรรมะสูงส่งเว่อร์ๆ ถึง ขนาดจะไปนิพพานกันแล้วหรอกครับ เอาแค่พื้นๆ ใช้ได้จริงหรือเปล่า ของจริงหรือเปล่า? แค่นี้ให้ได้ก่อนฮะ ๒ ธรรมะแท้มีคุณสมบัติ คุณสมบัติของธรรมะคืออะไร? เช

ธรรมะลวงโลกที่มักพบบ่อยๆ

รูปภาพ
หลายท่านที่สนใจปฏิบัติธรรมแต่ไม่อาจแยกแยะได้ว่าธรรมะไหนจริง ธรรมะไหนเท็จ เพราะอาจยังไม่สำเร็จธรรมหรือเพราะเหตุใดก็ตาม สุดท้าย มักจะถูกหลอกด้วยพวกลวงโลกเป็นจำนวนมาก ในบทความนี้ จะขอยกตัวอย่างว่าธรรมะลวงโลกมีแบบไหนบ้าง? ในท่านทั้งหลายได้ลองสังเกตุดูกันสักห้าข้อ ดังต่อไปนี้ครับ ๑ ธรรมะเ ปลือกๆ ประโลมโลก พวกนี้คือพวก “ศีลลัพพรต ปรามาส” คือ ลูบคลำธรรมะแต่เปลือก ไม่ได้แก่นแท้อะไร อาศัยว่าคนโง่เหมือนควาย ฟังแล้วก็เคลิ้มกันไปเอง เช่น พูดว่าทำความดีนะ อย่าไปทำความชั่ว เราต้องรักกัน กตัญญูต่อพ่อแม่ ทำเพื่อโลกนะ อย่าเห็นแก่ตัวนะ บลาๆๆ คือ ไอ้แบบนี้ ใครก็พูดได้เชื่อไหม? เพราะมันเป็นแค่เปลือกๆ ที่ใครก็พล่ามพูดได้เหมือนๆ กัน แต่ไม่ใช่แก่นแท้อะไรหรอก เหมือนนักพูดมืออาชีพ เข้ามาอ่านบทจนเข้าใจดีแล้ว ก็เอาไปพูดต่อ หากินได้แล้ว แถมคนส่วนใหญ่ชอบเสียอีก เพราะอะไร? เพราะคนส่วนใหญ่ไร้ความเพียรในธรรม ขี้เกียจพิจารณาธรรมให้ ถึง แก่น สุดท้าย พวกขี้เกียจ ขาดความเพียรในธรรม ก็ต้องไปเพียรต่อทางโลก ๒ ธรรมะแบบมีแต่ “ท่าไม้ตาย” เช่น เอะอะอะไรก็ “ไม่” ไม่อะไรทั้งนั้น อะไรก็ไม่ทั้งนั้น บ้างก็ “ว่าง”

ศิลปะการดำรงอยู่ในโลกยุคต่างๆ

รูปภาพ
ในบทความก่อนได้กล่าวแล้วว่าโลกมียุคสมัยต่างๆ แบ่งได้ห้ายุค ในบทความฉบับนี้จะมาต่อครับว่าแล้วเราจะปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่แตกต่างกันของโลกอย่างไรได้บ้าง? ใครเด่นและดับในยุคสมัยที่แตกต่างกันนั้น? เหมือนชีวิตของเราที่มีจังหวะ ขึ้น ลง และเราควรจะปรับจังหวะชีวิตของเราให้เข้ากับโลก ดังต่อไปนี้ครับ ๑ ยุคบุกเบิกก่อร่างสร้างใหม่ เราควรสร้างสายสัมพันธ์ ทั้งให้การสนับสนุน “เหล่าผู้บุกเบิก” เช่น ผู้ตั้งพรรคใหม่, ตั้งมูลนิธิใหม่, ตั้งองค์กรใหม่ แต่เรายังไม่ควรลงไ ปทำเอง เพราะเราจะเหนื่อยและต้องใช้แรงมาก เมื่อคนกลุ่มแรก คือ ผู้บุกเบิกหมดกำลังลงไปแล้ว เราค่อยรับไม้ต่อ วิ่งผลัดทำหน้าที่ในยุคต่อไปก็ได้ แต่การที่เราจะเข้าไปสู่ระบบใหม่ที่เหล่าผู้บุกเบิกสร้างไว้ได้ เราต้องมี “สายสัมพันธ์” ที่ดี จริงไหมครับ? และการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือ การให้การสนับสนุนพวกเหล่าผู้บุกเบิกในยุคแรกๆ นี่เอง เช่น พ่อของบูเช็คเทียน สนับสนุนเงินทุนให้ตระกูลหลี่ จนก่อตั้งราชวงศ์ถังได้ ต่อมา ลูกสาวคือ บูเช็คเทียนก็ได้เข้าไปเป็นพระสนม เพราะสายสัมพันธ์นี้ นั่นเองครับ ๒ ยุคเติบโต, เจริญก้าวหน้า เราควรเข้าส

โลกมียุคสมัยของมัน?

รูปภาพ
ในบทความก่อนได้กล่าวแล้วว่ากลไกของโลกนั้นมีลักษณะอย่างไร? และเราจะมีวิธีขับเคลื่อนกลไกของโลกให้ดำเนินไปได้อย่างไร? ในบทความนี้จะกล่าว ถึง โลกที่ถูกขับเคลื่อนในแบบต่างกันในแต่ละช่วงเวลาทำให้มียุคสมัยที่แตกต่างกัน โลกมีช่วง ขึ้น ลงเป็นวัฏจักร เพราะไม่เที่ยง อนิจจัง ไม่อาจยึดมั่นได้ ดังต่อไปนี้ครับ ๑ ยุคบุกเบิกก่อร่างสร้างใหม่ คือ ยุคที่โลกกำลังเริ่มก่อเกิดสิ่งใหม่ๆ ยุคนี้จะมีการ “วางรากฐาน” ของสิ่งใหม่ๆ จึ ง ยังไม่เห็นดอกผลเท่าใดนัก ผู้ที่ทำงานหลักๆ ในยุคนี้จะต้องพบกับอุปสรรคมากมาย และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะทำแล้วยังไม่เกิดผลนั่นเอง ทว่า หากไม่มีการวางรากฐานของสิ่งใหม่ๆ ลงไปในยุคนี้ ก็จะไม่มียุคสมัยใหม่เกิด ขึ้น ได้เลย แต่เพราะการสร้างสรรค์โลกให้เจริญก้าวหน้านั้น ต้องใช้เวลานาน ในยุคบุกเบิกนั้นยังไม่ใช่วาระของการมีดอกผลออกมาให้ชื่นชมกัน ผู้คนก็อาจไม่เชื่อถือ, ด่าว่า หรืออาจต่อต้านมากมาย ทว่า การวางรากฐานนั้น เป็นงานที่ยากมากๆ เพราะต้องมองการณ์ไกลไปสู่อนาคตให้ออก จึ ง วางรากฐานให้ถูกต้องเพื่ออนาคตได้ ๒ ยุคเติบโต, เจริญก้าวหน้า คือ ยุคที่โลกกำลังเข้าสู่ความเจริญรุ

กลไกของโลกเป็นไฉน?

รูปภาพ
ในบทความก่อนได้กล่าวแล้วว่าการกระทำใดๆ ในโลกเราจะไปคิดแบบกรรมกรไม่ได้ เหมือนการขับรถ เราต้องรู้กลไก ไม่ใช่ลงไปผลักรถทั้งคันให้เคลื่อนไป ในบทความนี้ จะขออธิบายขยายความต่อว่ากลไกของโลกนั้นมีลักษณะอย่างไร? และเราจะมีวิธีขับเคลื่อนกลไกของโลกให้ดำเนินไปได้อย่างไร? ดังต่อไปนี้ครับ  ๑ กลไกของโลกคืออะไร? อย่างแรกคุณต้องเข้าใจก่อนว่าโลกมีระบบ มีกลไกของมัน ไม่ใช่อะไรที่เกิดแบบสุ่มๆ ไร้ระบบ หรือกระจัดกระจาย เหมือนรถยนต์ หากเราจะขับ เรารู้กลไกของมัน กดไม่กี่ปุ่ม ทำนิดๆ หน่อยๆ มันก็วิ่งฉิวละ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจกลไกนี้ เราก็ไม่มีทางขับมันไปได้ โลกก็เหมือนกัน มนุษย์ที่อยู่ในระดับมิติที่ต่ำกว่ามิติที่ห้านั้น ไม่อาจทราบ ไม่อาจขับเคลื่อนมันได้ แต่มนุษย์ที่อยู่ในระดับมิติที่ห้าสามารถขับเคลื่อนโลกได้ครับ หลายคนมักคิดว่าเรายังไม่มีจะกินเลย จะไปช่วยโลกได้อย่างไร? นั่นคือ แนวคิดของคนที่อยู่ระดับมิติที่ต่ำมากๆ ก็คิดได้เท่านั้นเอง เพราะสมัยใหม่นี้ พระเจ้าให้มนุษย์เป็นผู้ดูแลโลกเองแล้ว หลังจากให้เทพดูแลโลกมานานครับ  ๒ กลไกของโลกเป็นความลับ? ใช่ครับ สำหรับจิตวิญญาณที่อยู่ในระดับต่ำ กลไกของโลกย่อมเป็