บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน 4, 2018

สังคมธรรมที่ผิดเพี้ยน

รูปภาพ
หลายท่านเริ่มเบื่อหน่ายกับชุมชนธรรมะในสื่อออนไลน์ต่างๆ สาเหตุมาจาก “สังคมธรรมที่ผิดเพี้ยน” ไม่ใช่สังคมธรรมของผู้มีธรรมอันแท้จริง ทำไมจึ ง กล่าวเช่นนี้? เพราะหลายคนเริ่มเห็นและมีประสบการณ์แล้วว่าการพูดคุยธรรมะไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นจะมี “ใจเป็นธรรมะ” ในบทความนี้ขออธิบาย ดังต่อไปนี้ครับ     ๑ สังคมที่มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง เช่น บางชุมชนที่มีธรรมะเอาไว้เพื่อ “ฟาดฟันเล่นงานคนอื่น” หาได้มีไว้เพื่อให้ตนเองตื่นแจ้งและหลุดพ้น ไม่ หลายท่านคงเห็นแล้ว มีประสบการณ์แล้ว ตระหนักแล้วว่ามีคนแบบนี้อยู่จริงๆ คนที่ปากพูดธรรมะ แต่ใจนี้ไม่มีธรรมะ ใจมีแต่จะเล่นงาน ประหัดประหารเอาชนะคะคานกัน สังคมธรรมะแบบนี้ย่อมมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ช่วยให้เกิดการพัฒนาจิตใจอะไรได้เลย การสนทนาธรรมที่แท้จริงนั้น ผู้เขียนเคยกล่าวแล้วว่าเขาจะต้องเคารพกันและกันก่อน และต่างก็ศรัทธากันและกันด้วยจริงใจ มิใช่คิดแต่จะเอาชนะอีกฝ่าย แต่จะต้องคิดว่าอีกฝ่ายเป็นดั่งอาจารย์ของตน ที่จะช่วยให้ตนตื่นแจ้งหลุดพ้นได้ ทว่า สังคมแบบนี้ไม่มีเลย ๒ สังคมที่อยากได้หน้ากว่าใครเขา เช่น ทำบุญเอาหน้า, แสดงธรรมเอาความเหนือกว่าใคร ฯ

โลกในยุคแห่งการจัดสรร

รูปภาพ
“วันสิ้นโลก” คือ วันที่โลกจะถูกชำระล้างแล้วสร้างใหม่เมื่อสิ้นอายุพุทธกาลลง ในยุคนั้นจะมีทีมงานที่ทำกิจ “ภาคทำลายล้าง” ลงมามากมาย ทว่า ก่อนจะเข้าสู่ยุคนั้น พระศิวะจะรวบรวมบริวารไว้ก่อนคือในยุคนี้จะมีคนที่ถูกจัดสรรเข้าสู่ทีมทำลายล้าง ในบทความนี้จะขออธิบายเรื่องของการจัดสรรดังกล่าว ดังต่อไปนี้ครับ     ๑ ใครต้องไ ปเกิดใน “กลียุค” บ้าง? กลียุคนั้น คนจะกินเนื้อคนกันเอง เป็นยุคที่โลกเสื่อมมากที่สุด ไม่มีอะไรดีเลย มีแต่การเข่นฆ่าทำลายล้างกันเท่านั้นเอง ถามว่าใครจะได้ไปเกิดในยุคนี้ครับ? คำตอบง่ายมาก ก็คือ “คนที่ทำหน้าที่ทำลายล้าง” ครับ แล้วใครที่ทำหน้าที่ทำลายล้างละ? คำตอบคือ “มีมากมาย” พระศิวะดูแลการทำลายล้าง แต่ท่านไม่ใช่เทพกระจอก ท่านมีบริวารมากมายนับไม่ถ้วนในการทำกิจ และท่านจะต้องค่อยๆ สะสมรวบรวมบริวารในการทำกิจนี้ แม้แต่ในยุคปัจจุบันก็มีการ “คัดเลือกคนเข้าทีมทำลายล้าง” แต่เป็นไปอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้ว่าตนเองกำลังเดินทางไปสู่วิถีแห่งการทำลายล้าง และยิ่งไม่รู้ว่าปลายทางของมันคือต้องไปเกิดในกลียุคครับ ๒ เราจะไปเกิดเป็นมนุษย์ในยุคไหน? จากยุคนี้จนจบสิ้นอายุพุทธกาลเหลือเวล

ลักษณะของร่างหุ่น

รูปภาพ
ในบทความก่อนๆ ได้อธิบายเรื่องการสูญเสียจิตวิญญาณของมนุษย์จนกลายเป็น “ร่างหุ่น” ให้จิตวิญญาณอื่นมาอาศัยอยู่มาบ้างแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วจะดูได้อย่างไรว่าใครเป็นร่างหุ่นบ้าง? ในบทความนี้จะขออธิบาย ถึง คนที่เป็นร่างหุ่นว่ามีลักษณะอย่างไร สามารถสังเกตุได้ด้วยตาเปล่าได้ยังไง ดังต่อไปนี้ครับ     ๑ จะดูดีมากกว่า ปกติ แต่ไม่ใช่ผลจากการปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องครับเช่น ดูเหมือนพระโพธิสัตว์ ทว่า ไม่ใช่การสำเร็จโพธิจิตจริง คนปกติที่ไม่ได้สูญเสียจิตวิญญาณ ยังคงจิตเดิมแท้อยู่ เขาก็จะดูเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปมากนัก แต่คนที่ “กลายเป็นหุ่นของบางสิ่ง” สิ่งๆ นั้นจะมาอยู่ในร่างแล้วทำให้ร่างดูดีกว่าปกติ กว่าเดิม เช่น ทำให้ดูสวยหล่อกว่าเดิม, ทำศัลยกรรมจนเปลี่ยนไปจากเดิม, อยู่ๆ เก่ง ขึ้น อย่างผิดปกติ, อยู่ๆ ร่ำรวยอย่างผิดปกติ ฯลฯ สิ่งที่ดูดีมากกว่าปกติที่เป็นนี้เอง เราจะต้องมีสติเท่าทัน และรู้จักตั้งคำถามว่า “มาจากสาเหตุใด?” ถ้ามาจากการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่ละ? ก็อาจจะมาจากการตกเป็นร่างของบางสิ่งก็ได้ครับ ๒ จะ ปฏิบัติธรรมไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้ปฏิบัติธรรมเลย แล

มนุษย์หุ่นยนต์-ร่างเปล่า

รูปภาพ
ในบทความก่อนๆ ได้อธิบายเรื่องการสูญเสียจิตวิญญาณของมนุษย์มาแล้ว บางคนสูญเสียบางส่วน ทว่า บางคนก็สูญเสียทั้งหมด ในบทความนี้จะขออธิบาย ถึง คนที่สูญเสียจิตเดิมแท้ สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปทั้งหมดว่ามีลักษณะอย่างไร? อยู่ได้อย่างไร? และต้องทำอย่างไรจึ ง จะสามารถเป็นปกติได้? ดังต่อไปนี้ครับ     ๑ สูญเสียจิตวิญญาณทำไมไม่ตาย? ที่ไม่ตายเพราะมีจิตวิญญาณอื่นมาใช้ร่างครับ ทำให้ร่างนั้นยังคงมีชีวิต มีลมหายใจอยู่ต่อไปได้ แต่เขาจะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ภายนอกอาจดูไม่ออก แต่จิตใจข้างในเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงของจิตใจนี้มิได้เกิดแบบปกติ เป็นการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจแบบที่ผิดปกติ คือ สูญเสียจิตวิญญาณเดิมแท้ไปแล้วได้จิตวิญญาณอื่นมาอยู่แทนนั่นเอง ในการปฏิบัติธรรมนี้สำคัญที่ใจ จิตจะต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการยกระดับสูง ขึ้น “แต่จะต้องเป็นจิตเดิมแท้” ไม่ใช่จิตอื่น หรือจิตดวงใหม่ ทว่า คนบางคนอาจจิตใจเปลี่ยนแปลงไปก็ดี ยังต้องตรวจสอบด้วยว่ายังเป็นจิตเดิมแท้หรือเปล่า? หากไม่ใช่ ก็แสดงว่าปฏิบัติธรรมผิดทางพุทธ เป็นเต๋า ๒ เคลื่อนย้ายวิญญาณแบบเต๋า การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณด้วยการเคลื่อนย้ายจิตเดิ

ต้นกำเนิดของมนุษย์

รูปภาพ
จักรวาลสร้างมนุษย์ในแต่ละดาวต่างกัน แม้ในดาวเดียวกันหากต่างยุคสมัยก็สร้างต่างกัน แต่ผลออกมาจะต้องได้มนุษย์ไม่ต่างกันครับ ถามว่า จักรวาลสร้างมนุษย์โลกนี้อย่างไร? ในบทความนี้จะขออธิบายในเรื่องการสร้างมนุษย์โลกนี้โดยจักรวาล ซึ่ง เป็นเรื่องอจิณไตยเท่าที่ผู้เขียนจะใช้จิตสัมผัสได้ ดังต่อไปนี้ครับ     ๑ กำเนิดจากมนุษย์ต่างดาว ในจักรวาลนี้มีดาวมากมายนับไม่ถ้วนได้ โลกธาตุที่มีสิ่งมีชีวิตไม่ได้มีแต่โลกธาตุของเรา ในอีกหลายๆ โลกก็มีสิ่งมีชีวิตอยู่และมีมนุษย์อยู่ด้วย โลกเรานี้ถือว่าวิวัฒนาการต่ำมาก เมื่อเทียบกับมาตรฐานของทั้งจักรวาล มนุษย์ในโลกธาตุอื่นๆ บางโลกธาตุมีความเจริญมาก มีภูมิปัญญามาก มีเทคโนโลยีชั้นสูง จากนั้น มนุษย์ที่อยู่ในโลกธาตุอื่นได้มาสู่โลกนี้แล้วกลายเป็น “ต้นกำเนิดของมนุษย์โลกนี้” มนุษย์กลุ่มนี้ได้ทำสิ่งผิดบาปมาก่อนจากโลกธาตุเดิม พวกเขาถูกลงโทษให้มาชำระบาปในโลกธาตุนี้ จากนั้น พระผู้ปกครองสูงสุดได้ส่งให้ตัวแทนของพระองค์ลงมาโปรด เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มนุษย์กลุ่มนี้ฟัง เพื่อปลุกให้ตื่นจากการหลงโลกนี้ ๒ กำเนิดจากพรหม ในจักรวาลนี้มีหลายโลกธาตุอยู่ มีโลกธาตุ หนึ่ง น

สมมุติธรรมปัจจุบัน

รูปภาพ
  ในบทความก่อนได้อธิบายเรื่องสมมุติธรรมที่เป็นดั่งนิ้วที่ชี้ดวงจันทร์กันไปเป็นเบื้องต้นแล้ว เพื่อให้เห็นชัด เป็นรูปธรรมมาก ขึ้น ในบทความนี้จะขอนำมาอธิบายขยายความให้ดูเป็นรูปธรรมซ้ำอีกครั้ง ในระบบที่ไม่ต้องตรัสรู้เองก็ได้ แต่เราสามารถประยุกต์หลักการใช้สมมุติธรรมปัจจุบันกับชีวิตของเราได้ยังไง ดังต่อไปนี้     ๑ จงเคารพสมมุติธรรม เช่น ถ้าเราเกิดมาเป็นผู้หญิงอยู่ในสังคมไทยที่ให้ผู้ชายเป็นนำ ผู้หญิงเป็นผู้ตาม หากเราเคารพสมมุติธรรม เราก็จะไม่ทรยศต่อตัวเราเอง ถามว่าทำไมเรียกว่าการทรยศต่อตัวเอง? คืออย่างนี้ครับ ตอนเราอยู่สวรรค์นี้ เราจะเห็นอนาคตของเราเองได้ก่อนเกิด บางคนเป็นภาคอวตารของพระโพธิสัตว์ สามารถเลือกเพศเกิดได้ จะใช้รูปลักษณ์ชายหรือหญิงก็ได้ บางคนไม่เลือกมาเป็นชาย เพราะเห็นตัวเองหากเป็นชายแล้วจะหลงทาง หลงตัวเอง ทำสิ่งที่ผิด เลยมาเป็นหญิงเพื่อที่จะทำหน้าที่ของฝ่ายสนับสนุนแล้วให้พระโพธิสัตว์อีกองค์เป็นผู้นำ เมื่อคุณวางแผนมาแบบนี้คุณจึ ง เกิดเป็นผู้หญิง แต่เมื่อทรยศตัวเอง คุณก็ไม่ยอมเดินตามแผนตัวเอง ๒ จงเชื่อในสิ่งที่คุณเ ป็นอยู่ ทุกอย่างถูกวางแผนและออกแบบมา “ดีที่สุดแล