โลกในยุคแห่งการจัดสรร

“วันสิ้นโลก” คือ วันที่โลกจะถูกชำระล้างแล้วสร้างใหม่เมื่อสิ้นอายุพุทธกาลลง ในยุคนั้นจะมีทีมงานที่ทำกิจ “ภาคทำลายล้าง” ลงมามากมาย ทว่า ก่อนจะเข้าสู่ยุคนั้น พระศิวะจะรวบรวมบริวารไว้ก่อนคือในยุคนี้จะมีคนที่ถูกจัดสรรเข้าสู่ทีมทำลายล้าง ในบทความนี้จะขออธิบายเรื่องของการจัดสรรดังกล่าว ดังต่อไปนี้ครับ

  

๑ ใครต้องไปเกิดใน “กลียุค” บ้าง?

กลียุคนั้น คนจะกินเนื้อคนกันเอง เป็นยุคที่โลกเสื่อมมากที่สุด ไม่มีอะไรดีเลย มีแต่การเข่นฆ่าทำลายล้างกันเท่านั้นเอง ถามว่าใครจะได้ไปเกิดในยุคนี้ครับ? คำตอบง่ายมาก ก็คือ “คนที่ทำหน้าที่ทำลายล้าง” ครับ แล้วใครที่ทำหน้าที่ทำลายล้างละ? คำตอบคือ “มีมากมาย” พระศิวะดูแลการทำลายล้าง แต่ท่านไม่ใช่เทพกระจอก ท่านมีบริวารมากมายนับไม่ถ้วนในการทำกิจ และท่านจะต้องค่อยๆ สะสมรวบรวมบริวารในการทำกิจนี้ แม้แต่ในยุคปัจจุบันก็มีการ “คัดเลือกคนเข้าทีมทำลายล้าง” แต่เป็นไปอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้ว่าตนเองกำลังเดินทางไปสู่วิถีแห่งการทำลายล้าง และยิ่งไม่รู้ว่าปลายทางของมันคือต้องไปเกิดในกลียุคครับ

๒ เราจะไปเกิดเป็นมนุษย์ในยุคไหน?

จากยุคนี้จนจบสิ้นอายุพุทธกาลเหลือเวลาอีกไม่เกินสองพันห้าร้อยปีโอกาสที่เราจะได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง “แทบไม่มี” ครับ คนที่พอมีฤทธิ์เดช มีบุญบารมีพอจะเกิดได้อีกครั้ง หากพลาดก็จะต้องเกิดในกลียุคเท่านั้น หรือก็คือประมาณ พ.ศ. ๔,๙๐๐ จากนี้โอกาสแทบจะไม่มีอีกแล้ว “นี่คือชาติสุดท้ายแล้วที่เราจะได้เกิดเป็นมนุษย์” ทว่า นี่ไม่ได้แปลว่าเราจะนิพพาน ตรงข้าม มันแปลว่าเราไม่มีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์อีกแล้วจนจบสิ้นอายุพุทธกาลนั่นเลย เพราะอะไร? เพราะคิวเกิดยาวมากๆ สรรพสัตว์ที่รอเกิดในศาสนาต่างๆ เยอะมากๆ นอกเสียจาก “พระโพธิสัตว์” แล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์พิเศษมาเกิดเป็นมนุษย์ก่อนวาระ “วันสิ้นโลก” ได้เลยครับ

๓ จากชาตินี้แล้วเราจะไปอยู่ไหนกัน?

นี่คือ คำถามที่ต้องถามต่อว่า ถ้าเราไม่มีคิวเกิดเป็นมนุษย์กันอีกแล้ว (ยกเว้นพวกที่มาเป็นมนุษย์ในกลียุค) เราจะอยู่ที่ไหน? ไปเกิดเป็นอะไร? อย่างนี้ครับ จักรวาลวางแผนไว้ว่าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพลังงานเก่า หรือเทพที่ประจำอยู่ในโลกในระดับชั้นต่างๆ ชุดเก่าต้องออกไป ชุดใหม่จะมาแทน ใครคือชุดใหม่? ก็คือ เราชาวเจนเนอเรชั่นเอ๊กซ์นี่แหละ ตายแล้วมักกลายเป็นเทพชั้นล่าง เช่น เทพเฝ้าวัด, บ้าน ฯลฯ กัน ไม่ใช่ได้เป็นเทพทันทีนะ เป็นผีบ้านผีเรือนก่อนแล้วค่อยพัฒนาเป็นเทพอีกชาติด้วยซ้ำ นี่คือ ภาพรวมส่วนใหญ่จะได้แบบนี้ ที่หลุดพ้นจริงๆ “น้อยมากๆ” จักรวาลจัดสรรและสร้างสรรพชีวิตเป็นรุ่นๆ แต่ละรุ่นไม่เหมือนกันครับ

                                                                                                   

๔ เป็นเทพเทวดาแล้วจะรับธรรมได้ไหม?

ได้สิครับ ได้แน่นอน และดีกว่ามนุษย์ด้วย คุณก็เคยอ่านมาแล้วว่าพระสมณโคดมท่านทำนายไว้ว่ามนุษย์จะมองไม่เห็นท่านในวันที่ท่านรวมธาตุอีกครั้ง จะมีแต่เทวดาที่เห็น คุณเข้าใจหรือยัง? ความหมายคือให้เราไปเกิดเป็นเทพเทวดารอก่อน เมื่อพระสมณโคดมรวมธาตุแสดงธรรมอีกครั้ง เป็นธรรมะของจริง เราจะได้ฟังจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ไม่ใช่จากศาสดาเทียมทั้งหลาย แล้วจะมีเทวดาหลุดพ้น สำเร็จมรรคผลมากมาย แต่ตอนนี้ “ยังไม่ใช่วาระ” ครับ ชาตินี้ เราเอาแค่หลุดพ้นจากอบายภูมิให้ได้ก่อนพอแล้ว ไปเกิดเป็นเทวดาก็ดีแล้ว หลังจากนั้นก็จะได้รับฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าตอนสิ้นอายุพุทธกาลเอง คุณพอจะเข้าใจแผนนี้ไหม?

๕ ชาตินี้อย่ามาบ้าเป็นพระอรหันต์ตั้งเอง

มันยังไม่ใช่วาระครับ วาระที่พระพุทธเจ้าจะรวมธาตุแสดงธรรมให้เรานั้นมีแน่นอน ท่านทำนายเอาไว้แล้ว อย่าใจร้อน ไม่ต้องรีบแต่งตั้งตัวเองเป็นอรหันต์กันไปเสียก่อน เอาแค่ให้หลุดพ้นจากอบายภูมิสี่ให้ได้ ก็พอ หลายคนชอบทำตัวเลียนแบบอรหันต์กัน แต่งตั้งกันเอง ยกยอกันเอง อันนี้อุปโลกน์กันเองทั้งนั้น อุปทานไปเองทั้งนั้น ยังไม่ใช่ ยังไม่จริงครับ อย่าเพิ่งหลงตัวเอง อย่าให้คนมาหลอกให้เราหลงตัวเองได้ ตั้งสติดีๆ ครับ วางแผนให้ดี จากชาตินี้แล้วไม่มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว จะไปเป็นเทพเทวดาเหล่าไหน? อยู่ที่ไหน? ก็ตั้งจิตตั้งใจบำเพ็ญธรรมให้ดีๆ อย่ามัวหลงโลก ของหลอกล่อต่างๆ ของโลกที่มีมากมายเหลือเกินเหล่านั้น

                             

ชาตินี้ชาติสุดท้ายแล้ว แต่ยังไม่นิพพาน ตั้งใจให้ดีๆ ครับ