ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?




ในบทความที่แล้วได้อธิบายเรื่อง “ความผิดเพี้ยนในผู้ปฏิบัติธรรม” มาแล้วว่ามีตัวอย่างอย่างไรบ้าง ถามว่าแล้วจะแก้ไขอย่างไร? ก็พอมีทางครับ แต่ไม่ง่าย เพราะบางคนหลงทางไปไกล เตลิดเปิดเปิงจนเกินจะรั้งได้ทัน การแก้ไขควรแก้ไขเร็วๆ แต่เนิ่นๆ ให้สติแรงๆ (อาจต้องด่า) ในบทความนี้จะขอนำมาอธิบาย ดังต่อไปนี้

๑ อยู่กับความเป็นจริง
อย่าไปอยู่กับตำรา, ทฤษฎี, หลักการ ฯลฯ อะไรทั้งนั้น เลิกครับ กลับมาอยู่กับชีวิตจริงๆ ความเป็นจริงของเราให้ได้ คุณพอแยกออกนะ ระหว่างโลกแห่งความจริง กับโลกแห่งความฝัน, จิตนนาการ, หลักการ, ทฤษฎีหรืออุดมการณ์ต่างๆ มันคนละอย่างกัน คนเราถ้าอยู่บนโลกแห่งความจริงแล้วเรียนรู้จากตำรา ถือตำราคือเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตจริง ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หลายคนใช้ตำราไม่เป็น ถูกตำราใช้ เป็นทาสตำรา ก็จะมองว่าตำราคือความจริง ตรงนี้ละ คุณเริ่มหลุดจากโลกแห่งความจริงไปสู่โลกแห่งตำรา, อุดมการณ์ และทฤษฎีต่างๆ มีสติให้ไวๆ ครับ ก่อนที่จะ “หลุดลอย” ออกไปจากโลกแห่งความจริงมากเกินไป กลับมาตั้งฐานให้ได้

๒ กลับมาตั้งฐานไวๆ
มีสติไวๆ แล้วกลับมาที่ฐาน มีกี่ฐาน? มีสี่ฐานให้เลือกนะ ฐานกาย, ฐานเวทนา, ฐานจิต, ฐานธรรม เรียกว่า “สติปัฏฐานสี่” หรือจะเรียกว่าอะไรก็ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจมาก เอาเป็นว่ากลับมาที่พื้นฐานให้ได้ไวๆ แล้วจะไม่เพี้ยนไปไกล ทุกครั้งเลยนะ เรียนรู้อะไร ปฏิบัติอะไร “อย่าลืมฐาน” สติกลับมาที่ฐานได้ จะไม่หลุดลอย จะไม่เพี้ยนไปไกล เช่น เริ่มอ่านตำรามากๆ ก็กลับมาที่จิตก็ได้ คือ กูไม่รู้อะไรทั้งนั้น ตำราผิดหรือถูก จริงหรือเท็จก็ไม่รู้แม่งละ กลับมารู้จิตตัวเองละกัน นี่ กลับมาแบบนี้ได้ ไม่หลงหลุดลอยไปไกล หลายคนอ่านตำรามากเข้าก็หลงเพลิน หลุดลอยไปเลย ไม่ใช่หลุดพ้นนะ มันหลุดลอยตามตำราไปแล้วก็ขาดสติกลับฐานไม่ได้

๓ หยุดให้ทันก่อนเตลิด
“หยุดคือตัวสติ” นี่คือคำสอนสุดยอดของ “หลวงพ่อสด” ของจริงเลยสติของจริงคือตัวนี้ละครับ คนมีสติต้องหยุดได้ หยุดเป็น มีสติแล้ว รู้แล้วว่าเราหลง เราก็ต้องหยุด ใช่ไหม? อย่าเอาแต่บ้าฤทธิ์เดชหรือสวรรค์อะไร แม้ว่าเราจะเห็น จะถอดกายทิพย์ได้ แต่เราก็ต้องหยุดตัวเองให้ได้ ให้เป็น ไม่งั้นมันเตลิดนะ เตลิดไปไกลเลย คนไม่เคยปฏิบัติจริงไม่รู้หรอก กรรมฐานนี่พาคนบ้า พาคนเตลิดมานักต่อนักแล้ว ครูบาอาจารย์โบราณท่านเลยไม่ให้กันง่ายเหมือนยุคนี้ ท่านต้องให้เราอุปัฐากท่านก่อนห้าปีนะคุณแล้วท่านค่อยให้ เพราะมันอันตราย หลวงพ่อสด, หลวงปู่มั่น หลงมาก่อนทั้งนั้น คนที่ปฏิบัติจริงนั้นไม่มีใครไม่หลง แต่ท่านหยุดได้นี่เรียกว่าสติ

กลับมาที่ความเป็นปกติศีล
“ศีล, สมาธิ, ภาวนา” สามอย่างนี้จะหนุนกันเป็นลำดับ หากศีลเราดี เมื่อภาวนาแล้วมีจุดบกพร่องน้อย มันจะพลาดยาก แต่ถ้าศีลเราไม่ดี มีรูรั่ว เหมือนกรรมฐานแตก อันนี้อันตราย ครูบาอาจารย์บางท่านจะไม่ให้เราปฏิบัติกรรมฐานเลย หากเราศีลไม่ดีหรือมีข้อบกพร่อง คือ ท่านกันไว้ก่อนครับ เพราะท่านอาจเคยเจอว่าพลาดแล้วแก้ไม่ได้ คนบางคนปฏิบัติผิดแล้วแก้ไม่ได้ หลงตัวเองเตลิดเปิดเปิงไปเลยนะคุณ ไม่มีใครฉุดรั้งได้ เตือนสติไม่ไหว เอายังไงก็ไม่อยู่ มันไปแล้ว มันเตลิดไปแล้ว แบบนั้นก็มี บ้างเจ้ากรรมนายเวรบางคนรอเล่น พอเราศีลไม่ดี มีช่องโหว่ เล่นงานเราเลย ที่เขาเรียกว่ามารแทรกอะไรแบบนั้น ต้องกลับมาที่ปกติศีลให้ได้

๕ ต้องมีผู้เตือนสติแรงๆ
อันนี้ช่วยได้แน่นอนและควรมีครับ หากคนๆ นั้นยังพอมีบุญวาสนาก็จะมีคนช่วยเตือนสติให้หายเพี้ยนได้ แต่ถ้าคุณไม่เหลือบุญวาสนาแล้ว ไม่มีใครเอาคุณแล้ว ก็จะไม่มีใครเตือนสติคุณอีก ไม่มีใครมาคอยนั่งด่าคุณอีก คือ “เขาไม่เอาคุณละ เขาปล่อยคุณละ” เข้าใจไหมครับ? ดังนั้น หากชีวิตนี้ของคุณ “ยังมีคนด่า” ก็จงดีใจ ดีใจเถิดครับ นั่นคือ “คุณไม่ถูกทิ้ง” เขาเอาคุณ เขาสนใจคุณ เขาเลยยังเสียเวลามานั่งด่าคุณ พอเข้าใจไหม? หลายคนรับไม่ได้เวลาถูกด่า ก็จะคิดเตลิดไปว่าคนเราต้องพูดดีๆ เพราะๆ ทำไมต้องด่ากัน คนที่ด่าคนอื่นไม่ดีเลยฯลฯ เปลี่ยนทัศนคติใหม่นะ “ยิ่งถูกด่ายิ่งดี” เพราะเขาช่วยเตือนสติเราช่วยไม่ให้เพี้ยนครับ

หากรักกันจริง ก็ต้องเตือนสติกันครับ ต่อให้ต้องด่าแรงๆ ก็ต้องทำ!

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ30 มกราคม 2565 เวลา 05:17

    The Best Online Casinos for real money - ChoGiocasino
    ChoGiocasino · #1. Online Casinos 제왕 카지노 for Real Money · #2. Top Online Casino. 메리트카지노 Top Live Dealer Casinos · choegocasino #3. RTG Casino.

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?