ความจริงที่โลกปิดซ่อน?
โลกนี้มีความจริงซ่อนอยู่เป็นชั้นๆ
คนที่มีจิตอยู่ชั้นล่างจะถูกปิดไม่ให้รู้ความจริงในชั้นที่สูงกว่า
เหมือนนกที่เราเลี้ยงไว้ในกรง นกไม่รู้แบบที่เรารู้ โลกในระดับมิติที่สูงๆ มีความลับหลายอย่างซ่อนไว้แล้วหลอกให้คนชั้นล่างยอมรับและเชื่อในเรื่องบางเรื่องทั้งที่ไม่จริง
ในบทความนี้จะขออธิบายเรื่องความลับของโลก ดังต่อไปนี้
๑ การดำรงอยู่โดยไม่ทำงานของมนุษย์
วรรณะพราหมณ์และกษัตริย์ไม่ต้องทำงานก็ได้
อาศัยภาษีที่เก็บจากพวกไพร่ทาสก็พอแล้ว
แต่พวกเขาจะไม่บอกไม่สอนเราในความจริงข้อนี้ว่ามนุษย์อยู่โดยไม่ต้องทำงานก็ได้
พระสมณโคดมรู้และสอนให้สาวกอยู่โดยอิสระไม่ต้องทำงานทางโลก บิณฑบาตรเพื่อยังชีพ
แต่ท่านจะบอกเรื่องนี้ตรงๆ กับทุกคน “ไม่ได้” เพราะจะกระทบทางโลก นี่เรียกว่า
“ความจริงที่ถูกปิดซ่อน” ไม่มีใครบอก ไม่มีใครสอน
มีแต่คนหลอกลวงเราว่าให้ทำงานจะได้มีกิน ถ้าไม่ทำงานก็จะไม่มีกิน
อย่าแบมือขอเงินพ่อแม่ ต้องหาเงินให้ได้เอง คนจะได้ยกย่อง สิ่งเหล่านี้คือคำสอนของ
“ชนชั้นล่าง” ที่ไม่รู้จริง แต่มันไม่ใช่คำสอนของพวกพราหมณ์และกษัตริย์เลยครับ
๒ การมีอิสระของมนุษย์ที่เหนือเทพ
เทพไม่มีอิสระที่จะทำอะไรตามใจตัวเองได้หมดนะครับ
เทพจะทำอะไรกับโลกต้อง “รับบัญชาสวรรค์” ก่อน แต่มนุษย์นั้น “ไม่ต้อง”
มนุษย์มีอิสรเสรีภาพที่จะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องรับคำสั่งสวรรค์หรือจากใคร
มนุษย์ทุกคนได้รับสิทธิ์นี้ที่ประชาธิปไตยเรียกว่า “เสรีภาพ” ทว่า
มนุษย์หลายคนขายมันให้ซาตานเพื่อแลกกับ “เงิน”
มนุษย์ได้เงินแต่ต้องยอมให้เสรีภาพแก่ซาตานไป จากนั้น
มนุษย์ก็ไม่มีเสรีภาพที่จะทำไม่ทำอะไรอีก มนุษย์ต้องทำตามคำสั่งของ
“เจ้านายและลูกค้า” นานวันเข้ามนุษย์เริ่มคิดเองไม่เป็นว่าเราต้องทำอะไร?
เรามีกิจอะไรต้องทำบ้าง? เรามาเกิดในโลกเพื่อทำอะไร?
เพราะเคยชินกับการถูกเจ้านายสั่งครับ
๓ การดำรงอยู่โดยไม่ยึดครองที่ดิน
ทุกตางรางนิ้วในโลกนั้นมีผู้จับจองไว้หมดแต่เรามองไม่เห็นเท่านั้นเอง
ในโลกทิพย์นั้น มีเจ้าที่มาครอบครองที่ดินไว้หมด
หากเจ้าสวรรค์จัดการที่นั้นได้ก็จะแต่งตั้ง “พระภูมิ” มาดูแลแทน
พระภูมิคือเทพที่ดูแลที่ดินนั้นครับ ส่วนผีเจ้าที่นั้นไม่ใช่เทพ แต่มาครอบครองที่ดินไว้
ใครจะเข้าไปผีเจ้าที่ก็เล่นงานเอาได้ บางครั้ง ผีมันก็หลอกให้คนอยากได้ที่
ครอบครองที่ดินนั้น เพื่อเอาคนๆ นั้นเป็น “ตัวตายตัวแทน” มัน
มนุษย์สามารถอยู่ในโลกนี้ได้โดยไม่ต้องครอบครองที่ดินอะไรเลย
เหมือนพระที่ธุดงค์เรื่อยไป แต่มนุษย์มากมายไม่รู้ความจริงข้อนี้
พวกเขาถูกหลอกให้อยากครอบครองที่ดิน
เมื่อจิตผูกมัดกับที่ดินแล้วก็กลายเป็นตัวตายตัวแทนของผีมัน
๔ ทุกอย่างก็แค่มายาแห่งกรรม
มายาการแห่งกรรมนี้
ทำให้เราต้องทำ, ต้องเป็น อย่างที่เราทั้งหลายเป็นอยู่นั้น
เพราะเรามีกรรมเป็นเหตุต้น เราก็เลยต้องรับผลของมัน ต้องทำงานไปวันๆ
ก้มหน้าชดใช้กรรมไป จนไม่ได้เงยมาดูเลยว่าความจริงมันคืออะไร? ไม่ว่าจะเป็นลูกผัว,
ตัวเมีย ฯลฯ พ่อแม่เราก็สมมุติมายาการทั้งนั้น เราก็หลงเพลินไปกับผลของกรรม
เราไม่กล้าที่จะเอาตัวเองออกมา เป็นอิสระจากมันอย่างแท้จริง
เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง จนกว่าเราจะชดใช้กรรมหมด ชำระบาปของเราหมดสิ้น
เราก็จะถูกธรรมชาติจัดสรรให้หลุดออกมา เมื่อหลุดออกมาแล้ว เราไม่ชิน
เราจะคิดว่าเราตกงาน ไม่ดีเลย เราอยากมีงานเหมือนเดิม
ซาตานก็จะมาหลอกเราให้กลับไปครับ
๕ ตื่นจากโลกมายาการซะเถิด
สุดท้ายนี้ต้องกล่าวสั้นๆ
สรุปว่า “ตื่นจากโลก” ซะเถิดครับ โลกนี้คือละครมายาการ หลอกลวงเราทั้งนั้นครับ เราเสียเวลามากแล้วทั้งชีวิตไปกับการทำงาน,
หาเงิน, เลี้ยงชีพ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแค่มายาการไม่ใช่สิ่งที่แท้จริง
เราไม่เคยได้มีเวลาชีวิตอยู่แบบ “จริงๆ” เลย เราแค่อยู่ในฐานะ “ตัวประกอบ”
ของละครมายาที่ใครสักคนแต่งไว้ เช่น ละครมายาเรื่องบริษัทที่ร่ำรวย
เราก็ต้องเป็นตัวประกอบไปทำงานให้เขาร่ำรวย
เวลาชีวิตของเราถูกเผาพลาญมอดไหม้ไปกับละครเรื่องนี้
เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีพไปวันๆ ของเรา เราก็กลายเป็นแค่ตัวประกอบในละครมายาของคนอื่นเท่านั้นเอง
เราไม่เคยเป็น “ตัวเอง” จริงๆ ในเรื่องราวชีวิตของเราเองเลย
อาชีพการงานเป็นแค่หัวโขนให้เราชดใช้กรรมด้วยการทำงานครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น