ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ไปเกิดไหน?




ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะไม่ได้มรรคผลแต่จะหลงตัวเองว่าได้อะไรมากมาย เพราะ “สมองคิดไปเองเยอะ” ถามว่าจะทราบได้อย่างไรว่าตายแล้วไปไหน? ก็ไม่ยากเพราะเดี๋ยวนี้เขามาจองตัวก่อนตายครับ พอเราเห็น “ชาวต่างมิติ” จองตัว เราก็สามารถทำนายได้ ในบทความนี้จะขออธิบายในหัวข้อนี้ ต่อไปนี้

ผีเฝ้าศาสนา, เฝ้าตำราธรรม
ประมาณ ๘% ของผู้ปฏิบัติธรรมในปัจจุบันจะตายแล้วไปเกิดเป็น “ผีเฝ้าศาสนา, เฝ้าตำราธรรม, เฝ้าวัด” ยังไม่ได้เป็นเทพนะ ต้องบำเพ็ญต่ออีกกว่าจะได้เป็นเทพ เช่น บำเพ็ญร้อยปี, พันปี ได้เป็นเทพอะไร? จะได้เป็น “เทพธรรมบาล” ครับ อยู่ชั้นล่าง เฝ้าดูแลศาสนา, ตำราธรรม, วัด, สถานธรรม ฯลฯ พวกนี้จะมีลักษณะคือ “ยึดติดศาสนา, ตำราธรรม, วัด” ฯลฯ มากๆ เพราะความยึดติดในสิ่งนี้เอง นำพาจิตมาเกิดพัวพันกับสิ่งที่ตนยึดมั่นถือมั่นนั้น หลายคนทำตัวเหมือน “จงอางหวงไข่” ใครมาพูดเรื่องธรรมะหัวข้อที่ตนเฝ้า จะต้องมีอาการเล่นงานคนนั้นคนนี้ด้วยวาจาต่างๆ ราวกับว่าธรรมะนั้นเป็นของตน ทั้งที่ตนก็มิใช่ผู้ตรัสรู้ในธรรมนั้น

ฤษี
พวกฤษีคือพวกที่ปฏิบัติธรรมแล้วไม่สำเร็จเป็นเทพ ไม่ได้หลุดพ้นไปพรหมโลก แต่จะติดอยู่ในโลกของเรานี้ พวกนี้ชอบทำตัวเป็นครูสอนคนอื่น มักแก่หง่อมเห็นได้ชัด เพราะอินทรีย์อ่อนแต่อยากได้ธรรมะมากๆ ทำให้รับธรรมเยอะเกินอินทรีย์ จนแก่หง่อม พวกนี้พบได้ประมาณ ๑๐% มักมีลักษณะ “น่านับถือ, น่าศรัทธา” นี่คือลักษณะของฤษีครับ พวกฤษีจะไม่ต้องเป็นผีเฝ้าศาสนาหรือตำราธรรม เพราะไม่ได้ยืดติดศาสนา, ตำราธรรมแบบพวกแรก พวกนี้ฉลาดกว่า ไม่ได้ตรัสรู้เองแต่มาเรียนรู้ธรรมะของคนอื่นแล้วเอาไปสอนต่อราวกับว่าตนเองตรัสรู้เองอย่างนั้น จึหลุดพ้นจากการเป็นผีเฝ้าศาสนาได้ขั้นต้น แต่ก็ยังไม่หลุดพ้นจากโลกอยู่ดี

๓ สวรรค์ชั้นที่สอง
พวกนี้พบได้สัก ๑% ถามว่าทำไมน้อยจัง? น้อยกว่ายุคก่อนๆ ครับ ไม่แปลกอะไร คุณต้องเข้าใจว่าจักรวาล “สร้างสัตว์แต่ละยุคไม่เหมือนกัน” ในยุคนี้ เขาจะสร้างพลังงานใหม่ไปแทนที่พลังงานเก่า พลังงานเก่าที่จะได้รับการชำระล้างคือพลังงานเก่าภาคพื้นดิน “พวกติดดิน” ทั้งหลาย คือ เทพชั้นล่างๆ ที่ติดดิน ดังนั้น คนที่มาปฏิบัตธรรมส่วนใหญ่จะกลายเป็นพลังงานใหม่ไปแทนที่เทพชุดเก่าครับ และเขาต้องการตัวเยอะมาก เขาก็จะมาจองตัวเราก่อนตายเลย ผู้เขียนยังเคยถูก “หลวงปู่เทพโลกอุดร” มาตามตัว แต่ท่านทดสอบแล้ว ผู้เขียนเลือกสายมหายาน ท่านก็เลยจากไป ดังนี้ คนได้ขึ้นสวรรค์แม้ชั้นที่สองก็เลยน้อยกว่ายุคก่อนครับ
                                                                                                         
๔ สูงกว่าสวรรค์ชั้นที่สอง
ประมาณ ๐.๑% ครับ น้อยมากเพราะอะไร? เพราะจักรวาลเขาสร้างพลังงานเก่าภาคพื้นดินก่อน สวรรค์ชั้นที่หนึ่งก่อน ชั้นสูงๆ เขายังไม่ได้สร้าง ตำแหน่งเทพชั้นสูงๆ “ยังไม่ว่างเลย” ยกเว้นบางกรณีพิเศษเท่านั้น เทพองค์เก่าจะยอมออกจากตำแหน่งเดิมให้เราไปแทนได้ครับ ถ้าท่านไม่ออกจากตำแหน่งเดิม เราไม่มีทางแทนท่านได้เลย ดังนั้น “ทุกตำแหน่งล้วนมีวาระ” ถ้าตำแหน่งยังไม่ว่างก็ไม่ได้ครับ ดังนั้น อย่าไปพูดว่าใครที่เขาได้สวรรค์ชั้นสูงๆ แล้วหลงคิดว่าตัวเองนิพพานแล้วไม่เกิดอีกแน่ แบบนั้นประมาทเกินไปแล้วครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ คนพูดก็ไปไหนไม่ได้ไกล อย่าคิดว่าการหลุดพ้นโลกเป็นของง่าย ยุคนี้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ

๕ สำเร็จมรรคผลทางธรรม
ประมาณน้อยกว่า ๐.๐๑% ครับ เพราะอะไร? เพราะมันยังไม่ถึงวาระ วาระที่เขาวางแผนกันไว้คือ เมื่อสิ้นอายุพุทธกาล พระพุทธเจ้าท่านจะ “รวมธาตุ” แล้วมาสอนเองเลย แต่ให้พวกเราทำหน้าที่เทพเทวดา ดูแลพุทธศาสนาไปก่อน พอทำหน้าที่ได้ดีแล้วครบห้าพันปีอายุพุทธกาล ท่านก็จะมาแสดงธรรมโปรดเทวดาแต่มนุษย์จะโปรดไม่ได้แล้ว ตอนนั้นนะ ดังนั้น หน้าที่เราคือ เอาให้ได้เทพเทวดาก่อน เดี๋ยวพระพุทธเจ้าท่านก็มาโปรดเราเอง “อย่าเสือกเป็นศาสดาเสียเอง” ทำยังกะว่าตรัสรู้เองหมดแล้ว รู้เองหมดแล้ว ไม่ใช่ครับ คุณไม่ได้มีบารมีธรรมพอเอาตัวรอดได้อย่างนั้น โลกนี้มีอะไรที่คุณมองไม่เห็นและอันตรายกว่าที่คุณคิดครับ

การสำเร็จธรรมไม่ใช่การคิดเอาเอง ตรัสรู้เองเป็นพระปัจเจกฯ ครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?