จิตเทพ ๔ ขั้นเป็นไฉน?




ในบทความก่อนๆ ได้อธิบายความหมายของ “มนุษย์” ที่แตกต่างกันและต่างจากเทพและปีศาจอย่างไรไปบ้างแล้ว ในบทความนี้จะขออธิบายเรื่องราวของเทพสวรรค์กันบ้าง เพราะมีความแตกต่างหลากหลายให้ได้เรียนรู้เช่นกัน เทพสวรรค์ที่จะกล่าวไว้ในบทความนี้จะเป็นเทพสวรรค์ที่พบได้ในโลกของเรานี้เท่านั้น ดังนี้

นิยามของเทพ
ในบทความก่อนๆ ได้อธิบายแล้วว่าเทพ, มาร และปีศาจนั้นมาจาก “ผู้บำเพ็ญบารมี” เช่นกัน ต่างกันตรงที่เทพคือผู้ที่สอบผ่าน “สามารถปรับตัวเข้าสู่ระบบสวรรค์ได้” เรียกว่า “อยู่ในรีต” ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเทพ, มาร หรือปีศาจทั้งหมดล้วนเป็น “คนดี” เสมอ และเราไม่ควร “หลงคนดี” เพราะเราไม่อาจทราบได้ว่าคนดีนั้นคือ เทพ, มาร หรือปีศาจ เอาง่ายๆ ครับ คนดีที่ไม่อยู่ในระบบระเบียบ อยู่ในกรอบ ในธรรมวินัยของสวรรค์ไม่ได้ ก็คือ “ปีศาจ” ส่วนคนดีที่อยู่ในระบบ, ในรีตได้ดีมาก แต่ใช้เล่ห์เหลี่ยม อ้างกฏระเบียบเล่นงานคนอื่นได้แบบแนบเนียนและไม่ผิดอะไรเลยก็คือ “มาร” ส่วนเทพก็คือคนที่ทำตามหน้าที่ อยู่ในกรอบเท่านั้นไม่ยอมนอกรีต

๒ จิตเทพขั้นที่หนึ่ง
ได้แก่ เทพสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง จะประจำอยู่ภาคพื้นดินร่วมกับมนุษย์ครับ เช่น เทพช้าง, เทพม้า ฯลฯ พวกนี้จะติดในการ “หากิน” หรืออาชีพต่างๆ วันๆ ก้มหน้าหากิน ทำให้สันหลังขนานพื้น ไม่อาจยืนตรง ไม่อาจมองตรงไปข้างหน้าได้แบบมนุษย์ แต่ก็มีความเป็นเทพและสอบผ่านได้เข้าสู่ระบบของเทพ อยู่ในจารีตของเทพสวรรค์ได้ในขั้นต้น เทพชั้นนี้จะมีความเป็นเทพไม่สมบูรณ์เพราะมีความเป็นสัตว์เดรัจฉานเข้ามาผสมด้วย เช่น ติดอยู่ในการกิน, ขี้, ปี้, นอน ฯลฯ ไม่ต่างจากสัตว์ แต่ได้รับการสอนมาดี ทำให้อยู่ในระบบระเบียบได้ อยู่ในจารีตของสวรรค์ได้ สิ่งสำคัญของการเป็นเทพไม่ใช่ต้องเก่งที่สุด แต่ต้องอยู่ในจารีตสวรรค์ให้ได้ครับ

๓ จิตเทพขั้นที่สอง
ได้แก่ เทพสวรรค์ชั้นที่สอง จะอยู่เหนือพื้นดินแต่ไม่ไกลจากพื้นโลก สามารถมองลงมาเห็นชาวโลกได้ พวกนี้ จะยังอาลัยอยู่ในชาติ, ศาสนาของตน แต่พ้นแล้วจากความเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่วนอยู่ในการก้มหน้าหากินไปวันๆ ราวกับสัตว์ เพียงแต่ยังติดในกามคุณไม่ต่างจากมนุษย์ จึมีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่งดงามกว่า คือ สวรรค์ชั้นกามาวจรนั่นแหละ เทพกลุ่มนี้จะอยู่กับระบำรำฟ้อน, ดนตรีสวรรค์ไปวันๆ มีเทพเรียกว่า คนธรรพ์ คอยบรรเลงเพลงสวรรค์เป็นเนืองนิตย์ เรียกว่าเสวยสุขกันแบบโลกๆ แบบมนุษย์นิยมกัน แต่จะไม่มีอะไรอันสูงส่งไปกว่านั้นนัก ความเป็นอยู่จะคล้ายกับคนรวยๆ ที่มีชีวิตหรูหรานี่เอง แต่ก็อยู่ในกรอบในจารีตสวรรค์

๔ จิตเทพขั้นที่สาม
ได้แก่ เทพสวรรค์ชั้นที่สามและสี่ ชั้นนี้เป็นชั้นของเทพสมณะและพระโพธิสัตว์ เทพสมณะจะอยู่เหมือนพระ ประจำสวรรค์ชั้นที่สี่ คนละฝั่งกับพระโพธิสัตว์ สองชั้นนี้เทพเริ่มเบื่อกามคุณแล้ว เริ่มเบื่อเรื่องโลกๆ เหล่านั้นแล้ว แต่จะยังอยู่ภายใต้ศาสนาอยู่ ติดข้องอยู่ด้วยศาสนาและการปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธ โปรดเข้าใจว่าสวรรค์ในโลกเรานี้สร้างไว้ให้ “ชาวพุทธ” ส่วนชาวคริสต์และมุสลิมจะกลับคืนสู่พระเจ้าในอีกดาวหนึ่ง อันห่างไกลจากโลกนี้ไป ส่วนชาวพราหมณ์ฮินดูจะไปสู่พรหมโลกธาตุ ที่อยู่ห่างไกลจากโลกนี้เช่นกัน ในชั้นนี้มีแต่เรื่องราวของพุทธและการบำเพ็ญเพียรล้วนๆ เทพชั้นนี้จะรอพระพุทธเจ้ามาโปรดแล้วไปสู่พุทธเกษตรฮะ

๕ จิตเทพขั้นที่สี่
ได้แก่ เทพสวรรค์ชั้นที่ห้าและหก จิตใจของเทพระดับนี้จะไม่ยึดติดในชาติหรือศาสนาใดๆ อีก ศาสนานี้ มีได้มากมาย แต่ศาสนาบนโลกล้วนมีข้อบกพร่องไม่สมบูรณ์ เมื่อพิจารณาได้เช่นนี้ จิตของเทพนั้นย่อมไม่ติดในโลก ย่อมหลุดพ้นโลกได้ เพราะหากจิตเทพยังติดข้องอยู่กับชาติศาสนาใดๆ จิตนั้นก็จะติดอยู่กับภาคพื้นดิน หลายคนที่ตายแล้วไม่หลุดพ้นจากภาคพื้นดินเพราะไม่เข้าใจว่าชาติและศาสนานั้นมีข้อบกพร่อง ไม่ตื่นแจ้งว่าชาติและศาสนาใดๆ ในโลกล้วนไม่อาจยึดถือ ดังนั้น พวกเขาย่อมไม่อาจไปสูง นอกจากนี้ เทพชั้นนี้จะไม่มีความอาลัยในกาม เช่น ทหารที่พร้อมตายในสนามรบ ไม่อาลัยในครอบครัว ไม่หลงในกามในระดับหนึ่ง

เทพสวรรค์หกชั้นฟ้าสร้างมาเพื่อช่วยเหลือพุทธศาสนาเป็นสำคัญครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?