การบำเพ็ญในสามยุคสำคัญ

จักรวาลสร้างสรรค์สัตว์ทั้งหลายแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงการสร้างสัตว์ในสามยุคสำคัญ ได้แก่ ยุคสร้างโพธิสัตว์, ยุคสร้างเทพ และยุคสร้างมนุษย์ในมิติที่ห้า ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร? ทั้งนี้ จะแตกต่างจากธรรมะในพุทธศาสนาบ้างขอให้เปิดใจกว้างๆ แล้วจะเข้าใจ ดังต่อไปนี้ครับ

๑ สามยุคสำคัญคืออะไร?

“สามยุคสำคัญ” คือ ในยุคนี้จะมีการสร้างสัตว์สามยุค สามเจนเนอเรชั่น ให้เกิดเป็นพระโพธิสัตว์, เทพและมนุษย์ในมิติที่ห้าครับ สามยุคนี้ไม่ใช่กลียุคแน่นอน และเป็นยุคที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่ง เพราะไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะอะไร? เพราะก่อนจะเกิดยุคนี้ได้นั้น จะต้องมีการสร้างบุญบารมีมากมายหลายชาติภพรวมกันมา แล้วจากนั้น จักรวาลก็คัดเลือกสรรพสัตว์ “ที่มีบารมีธรรมสูงสุด” จำนวนมากมายให้มาเกิดในยุคนี้ เราทั้งหลายล้วนเป็นผู้มีบุญ ผู้เขียนได้เคยกล่าวคำนี้ย้ำบ่อยๆ ไม่มีใครไม่มีบุญ เพราะหากไม่มีบุญ จะไม่มีทางได้เกิดมาในยุคนี้แน่นอน แต่ละคนเคยตายในสงคราม พลีชีพมาทั้งนั้น กว่าจะได้มาเกิดในยุคที่เจริญนี้ครับ

๒ ยุคสร้างโพธิสัตว์

ได้แก่ยุค “เจนเนอเรชั่นเบบี้บูมเมอร์” หรือยุคปู่ย่าตายาย ในยุคนี้จักรวาลจะสร้างมนุษย์ให้เป็นโพธิสัตว์กัน คนรุ่นนี้จืงต้องทำงานเหนื่อยยากและไม่ได้ผลทางโลกอะไรนัก เพราะยังไม่เกิดดอกออกผล หลายคนก็ตายไปเสียก่อนที่จะเห็นความสำเร็จหรือความร่ำรวยของครอบครัวก็มี เรียกว่าสละตน อุทิศตัว ยอมเหนื่อยยากเพื่อให้คนรุ่นต่อไปได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีส่วนตนกลับไม่ทันได้เสวยผลของมันก็ตายไปเสียก่อน ส่วนใหญ่คนรุ่นปู่ย่าจะเป็นเช่นนี้ครับ และมันก็คือวิถีโพธิยาน มันเป็นวิธีการสร้างโพธิสัตว์ครับ คนยุคนี้แต่ละคนจะมีตำแหน่งโพธิยานรอรับหากสำเร็จ แต่หากไม่สำเร็จ ตำแหน่งนั้นจะต้องให้คนรุ่นต่อไปเข้ามาบำเพ็ญแทนที่

๓ ยุคสร้างเทพ

ได้แก่ยุค “เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์” หรือยุคพ่อแม่ ในยุคนี้จักรวาลจะสร้างมนุษย์ให้เป็นเทพเซียนกัน อุปมาคล้ายยุค “ห้องสิน” ของจีนน่ะละครับ เขาจะแบ่งคนเป็นสองฝ่ายแต่ละฝ่ายจะพัฒนาตัวเองจนมีฤทธิ์เดชมาก จนพร้อมดีแล้วก็ให้ต่อสู้กันเพื่อทดสอบกันและกันเหมือนเพชรจะเป็นเพชรแท้ได้ต้องผ่านการทดสอบด้วยเพชร เรียกว่า “เพชรตัดเพชร” คนในยุคนี้จะไม่เหนื่อยยากหรือต้องเสียสละมากเหมือนคนยุคก่อน เกิดมาก็ได้รับพื้นฐานจากคนรุ่นก่อนแล้ว คนยุคนี้มักมี “ตำแหน่งทางโลก” ที่เรียกว่าอาชีพเช่น ตำรวจ, ครู, หมอ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ “สมมุติธรรม” ที่ใช้ในการพัฒนามนุษย์ให้ยกระดับเป็นเทพนั่นเอง ไม่ใช่หัวโขนที่ให้เรามาหลง

                                                                                                   

๔ ยุคสร้างมนุษย์ในมิติที่ห้า

ได้แก่ยุค “เจนเนอเรชั่นวาย” หรือยุควัยรุ่น ในยุคนี้จักรวาลจะสร้าง “มนุษย์ให้เป็นมนุษย์” ไม่กลายพันธ์อีก เพราะในยุคก่อนๆ มานั้น จักรวาลพยายามสร้างมนุษย์ให้เป็นโพธิสัตว์บ้าง, เทพบ้าง แต่ไม่สำเร็จมากมาย ส่วนใหญ่กลายพันธุ์เป็นอย่างอื่น เช่น ปีศาจ, อสูร ฯลฯ ไป มายุคนี้จึงไม่ทำให้มนุษย์เป็นอย่างอื่นอีก แต่ให้เป็นมนุษย์เหมือนเดิมนี่ละ เพิ่มเติมคือให้ “เลื่อนระดับสู่มิติที่ห้า” แทนครับ เพราะมนุษย์ยุคก่อนๆ บำเพ็ญไม่สำเร็จมากมาย กลายพันธ์มากมาย ความสำคัญของยุคนี้เลยต้องพยายามคงรักษาความเป็นมนุษย์ไว้ให้ได้ ก่อนที่จะเสื่อมไปหมด มนุษย์ในระดับมิติที่ห้านั้นนับว่ามีธรรมสูง ไม่ด้อยกว่าเทพและโพธิสัตว์ครับ

๕ การแทนที่ตำแหน่งที่ไม่สำเร็จ

เมื่อผู้บำเพ็ญบารมี บำเพ็ญแล้วไม่สำเร็จ เป็นไปได้ไหมครับ? เป็นไปได้ครับ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะมีการวางแผนจากจักรวาลมาอย่างดี แต่ก็ไม่เที่ยง อาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ ทว่า นั่นไม่ใช่ปัญหา ด้วยระบบการทำงานของจักรวาล เมื่อใครบำเพ็ญบารมีไม่สำเร็จ เขาจะมี “ลำดับคิวถัดไป” มาเสียบทันที เพื่อไม่ให้งานส่วนรวมเสียหายครับ เหมือนพระอวโลกิเตศวร แบ่งภาคลงมาเป็นพระธิดาสามองค์ สำเร็จได้องค์สุดท้ายคือพระธิดาเมี่ยวซ่าน ทว่า แท้แล้วทั้งสามองค์ล้วนเป็นภาคอวตารของพระอวโลกิเตศวรทั้งหมดครับ ถ้าคุณไม่มีโอกาสได้ตำแหน่งทางธรรม อย่าท้อ รอดูใครไปต่อไม่ได้ คุณก็สามารถทำแทนเขาได้ครับ

คนมีตำแหน่งแล้ว อย่าประมาท ตั้งใจดีๆ อย่าให้เสียไปครับ