โลกธาตุอันเป็นบ้านแท้เป็นไฉน?
ในบทความก่อนๆ
ได้กล่าวแล้วว่าโลกธาตุที่เราอยู่นี้มิใช่ “บ้านที่แท้จริง” ของเรา
ถามว่าแล้วบ้านที่แท้จริงของเราละมีไหม?
เราจะกลับคืนสู่บ้านที่แท้จริงของเราได้อย่างไร? ศาสนาต่างๆ
บอกเราเรื่องบ้านที่แท้จริงนั้นอย่างไรบ้าง? ในบทความนี้จะขอนำเรื่องราวทั้งหลายอันเกี่ยวกับบ้านที่แท้จริงมาอธิบาย
ดังต่อไปนี้
๑ โลกธาตุอันเป็นที่อยู่ได้
ทุกโลกธาตุล้วนไม่เที่ยง,
อนิจจัง, อนัตตา ไม่อาจยึดได้ตลอดไป แต่ก็มีโลกธาตุที่ถือว่าเป็นที่อยู่อาศัยได้จริง
มิใช่ถูกสร้างมาเพื่อชำระบาปเหมือนโลกธาตุที่เราอยู่กันนี้ฮะ
ที่กล่าวเรื่องโลกธาตุอันเป็นที่อยู่ได้นี้ ไม่ได้จะให้ยึดติดโลกธาตุนั้นๆ
แต่เพียงแค่จำแนกให้ดูว่าโลกธาตุต่างๆ นั้นไม่เหมือนกัน และโลกธาตุที่นับว่าอยู่ได้นี้
แตกต่างจากโลกธาตุของเราอย่างไร? ทำไมเราไม่ควรหลงโลกนี้ ทำไมศาสนาต่างๆ
สอนให้เรากลับบ้านเก่า ไม่ให้เราหลงโลก
ศาสนาพราหมณ์สอนให้กลับคืนสู่อาตมันและสวรรค์ที่พรหมโลกธาตุ,
ศาสนาคริสตร์สอนให้กลับคืนสู่พระเจ้าที่อยู่อีกโลกธาตุ,
ศาสนาพุทธสอนให้เราไม่หลงโลก (ทุกศาสนาล้วนให้เราไม่หลงโลก)
๒ พุทธเกษตรโลกธาตุ
พุทธเกษตรโลกธาตุ
เป็นโลกธาตุที่อยู่ได้จริง มั่นคง มีเสถียรภาพ แต่เราจะไม่ได้ไปอยู่ที่นั่นเร็วนัก
เราจะต้องทำกิจของเราในดาวอื่นๆ ให้ครบจบก่อน จากนั้น เราจะวิวัฒนาการจนสำเร็จพุทธะ,
มหาโพธิสัตว์ ฯลฯ เราก็จะได้กลับคืนสู่พุทธเกษตรใดพุทธเกษตรหนึ่ง ทว่า
หากยังไม่ถึงวาระนั้นเราก็จะยังกลับไม่ได้ครับ
เราจะใจร้อนไม่ได้ ระหว่างนั้นเราจะเวียนว่ายตายเกิดในหลายๆ โลกธาตุเช่น
พรหมโลกธาตุ, ตรีสหัสสโลกธาตุ ฯลฯ ดังนั้น อย่าเพิ่งไปโฆษณาหลอกลวงใครว่าจะสามารถพากลับพุทธเกษตรได้เพราะหากทำไม่ได้จะเป็นกรรมผูกมัดตัวเองครับ
แม้ว่าในตำราธรรมะจะบอกว่าสามารถกลับคืนสู่พุทธเกษตรได้ ทว่า ไม่ได้บอกว่าเมื่อไร?
๓ ตรีสหัสสโลกธาตุ
หรือโลกธาตุที่เราอยู่อาศัยกันนี้
ดังที่กล่าวแล้วว่าโลกธาตุนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อการดำรงอยู่อย่างแท้จริง
แต่ไว้เพื่อการชำระบาป เป็นต้น ดังนั้น เราจะเห็นภัยพิบัติเกิดบ่อยๆ ในโลกของเรา
เช่น น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, ไฟป่า ฯลฯ นี่คือ
สิ่งเตือนใจให้เรารู้ว่าโลกนี้ไม่ใช่ที่จะให้เราหลง และไม่ใช่ที่อยู่อาศัยได้แท้จริง
ดีไม่ดีก็จะเกิดมีสงครามล้างบางกันอีกด้วย ภัยพิบัติเหล่านี้ ไม่มีในหลายๆ
โลกธาตุที่เสถียรแล้ว ในโลกธาตุที่ไม่เสถียรจะมีสงครามบ่อย เช่น
ดาวที่มนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่ มักมีสงครามบ่อยๆ มนุษย์นั้นไม่เก่งการปกครอง
เมื่ออยู่ที่เดียวกันเกิดความขัดแย้งก็นำไปสู่สงครามได้ จักรวาลมักจะส่ง “เทพ” มาปกครองเหล่ามนุษย์ด้วยเหตุฉะนี้
๔ การวางแผนอยู่ในโลก
เมื่อเรารู้แล้วว่าโลกนี้ไม่ใช่ที่จะให้เราอยู่ได้จริงตลอดไป
คำถามต่อไปคือ เรามาทำไม? จะอยู่ในโลกนี้ทำไม? และเพราะเรามีหน้าที่,
มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ในโลกนี้ “ระยะหนึ่ง” ดังนั้น
เราจะต้องวางแผนว่าจะอยู่ในโลกนี้อย่างไร?
โลกนี้มีภพที่รับรองการดำรงอยู่ของเทพและผู้ที่มาทำกิจยังโลกอยู่เรียกว่า “สวรรค์”
แต่สวรรค์ในโลกนี้ก็ยึดติดไม่ได้ดังที่กล่าวมาแล้ว ทว่า มันก็คือที่พัก,
ที่ทำงานชั่วคราวของเรา การวางแผนชีวิตเพื่อให้ได้อยู่บนสวรรค์ย่อมดีแน่นอน
ดีกว่าที่ไม่มีแผนอะไรแล้วต้องตกนรก หรือกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนนอกระบบที่หาคิวเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้ที่เรียกว่า
“พวกนอกรีต” นั้น ดังนั้น การดำรงอยู่ในโลกควรอยู่ในรีตไม่นอกระบบ
๕ ไม่เที่ยงแต่ไม่ใช่ไม่มี
จะว่ามีตัวตนก็ไม่ใช่
ไม่มีอะไรเลยก็ไม่ถูก ใครที่บอกว่าไม่มีอะไรเลยแสดงว่าหลงในลัทธินิรัตตาฮะ
ส่วนใครที่บอกว่ามีตัวตนแท้ยึดมั่นได้ อันนั้นก็อีกลัทธิหนึ่ง
ทั้งสองแนวคิดล้วนสุดโต่งทั้งคู่ เพราะสัจธรรมความจริงนี้มีอยู่
ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย แต่จะไปยึดติดก็มิได้เพราะไม่เที่ยงมิใช่ตัวตนของตน
ภพและบ้านที่แท้จริงก็เช่นกัน มันไม่เที่ยง เราจะไปยึดมั่นถือมั่นไม่ได้
แต่จะไม่มีเลย ไม่เอาเลย ก็ไม่ถูก จะลอยเคว้งคว้างอยู่ในจักรวาลไปวันๆ ก็มิใช่ที่
เราจะต้องมีภพ มีที่อยู่อันไม่เที่ยงนั้น เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
แต่เราต้องเข้าใจบ้านที่แท้จริง ภพที่เราไปอยู่ชั่วคราวนั้นด้วยว่ามันคืออะไร?
มันเป็นอย่างไร? นิพพานไม่ใช่ความหายสูญ ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
อย่าหลงโลกนี้อีกเลย
ตื่นแจ้งในบ้านที่แท้จริงของเราเถอะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น