พุทธะมีได้หลายองค์ในโลก?




หลายท่านศึกษามาทางเถรวาทจะไม่เข้าใจเรื่องของพุทธะ เพราะอะไร? เพราะธรรมนั้นมีสามระดับ คือ ระดับสาวกยาน, ปัจเจกยาน และโพธิยาน ผู้ที่จะเข้าใจเรื่องของพุทธะได้จะต้องอยู่ในระดับโพธิยานครับ ดังนี้ สายเถรวาทย่อมไม่เข้าใจเรื่องพุทธะ ย่อมเข้าใจแค่เรื่องอรหันตะ ในบทความนี้จะอธิบาย ดังต่อไปนี้

๑ พุทธะมีได้หลายองค์?
แต่จะมีพระพุทธเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ทำหน้าที่ “ปกครองธรรมกาล” ส่วนพุทธะองค์อื่น มีหน้าที่อย่างอื่น หรืออาจมีหน้าที่ปกครองธรรมกาลในโลกธาตุอื่น หรือในโลกธาตุนี้แต่ในยุคอื่นครับ หลายคนเข้าใจผิดว่าพุทธะมีได้องค์เดียวเท่านั้น ไม่จริงครับ มีได้ไม่จำกัดแล้วแต่จะสามารถทำได้ ในยุคนี้พระศากยมุนีพุทธะคือผู้ปกครองธรรมกาลของโลกนี้ โดยมิได้ห้ามว่าผู้อื่นจะสำเร็จพุทธะไม่ได้นะครับ สำเร็จพุทธะกันได้ หากมีความสามารถจะทำได้ ทว่า แม้จะมีพุทธะหลายองค์มากมาย แต่จะมีพระศากยมุนีพุทธะองค์เดียวที่ทำกิจปกครองธรรมกาล ตรงนี้พอเข้าใจไหม? โดยพระศากยมุนีจะทรงประทับอยู่พุทธเกษตรไม่ลงมายังโลกครับ

๒ การปกครองธรรมกาล
พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงตรัสรู้เองโดยชอบอยู่แล้วทุกพระองค์ แต่ทรงรอเวลาปกครองธรรมกาลยังโลกธาตุต่างๆ เท่านั้นเอง เมื่อถึงวาระนั้น พระองค์จะลงมาเกิดทั้งองค์ไม่ได้ เพราะบุญบารมีของสัตว์ทั้งหลายไม่พอเอื้อมถึงท่านครับ ท่านจึต้อง “แบ่งภาคส่วนอวตารลงมา” เป็นพระโพธิสัตว์อีกครั้ง พระโพธิสัตว์นี่เองที่ลงมาเกิดยังโลกได้ และสามารถทำกิจแทนองค์พุทธะได้โดยมีองค์พุทธะเป็น “ตัวตนเบื้องสูง” คอยส่องแสงให้ นำทางให้พระโพธิสัตว์ทำกิจตามแผนการณ์ของพระองค์ จิตญาณทั้งหลายที่ยังไม่หลุดพ้น จะได้อาศัยองค์โพธิสัตว์เพื่อพัฒนาตัวเองจนสำเร็จพุทธะตามๆ กันไป แล้วกลับคืนสู่พุทธเกษตร เป็นยุคๆ รุ่นๆ ทยอยกันไป

๓ ยุคของธรรมแห่งพุทธะ
ธรรมทั้งหลายมีแก่นแท้สัจธรรมเดียวกัน แต่มีรายละเอียดไม่เหมือนกัน เหมาะสมกับจริตสัตว์ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จะต้องรอเวลาเปิดเผยครับ เช่น พระอวตังสกสูตร ก็ถูกเก็บไว้ในแดนบาดาลนานมากกว่าจะออกมาเปิดเผย ในยุคนี้ จะมีพระธรรมที่สำคัญที่จะเปิดเผยอีกคือ “พระสัทธรรมปุณฑริกสูตร” เป็นพระสูตรที่กล่าวอธิบายเรื่องพุทธะได้อย่างดีที่สุด ก็จะได้รับการเปิดเผยในยุคนี้ด้วย อ่านแบบนี้หลายคนอาจงง? พระธรรมนี้หลายคนก็ได้อ่านจาก “ตำรา” แล้วนี่ ทำไมว่ายังต้องรอการเปิดเผยอีกละ? ก็เพราะว่าในตำรานั้นยังมิได้เปิดเผยแท้จริง “แค่กล่าวเกริ่นนำไว้” เท่านั้น ว่าพระสมณโคดมได้ตรัสรู้ธรรมนี้ก่อนแล้วแต่ยังมิได้เปิดเผย

๔ เราทั้งหลายคือเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะ?
แต่เรามีเจตจำนงเสรีที่จะแบ่งภาคออกมาจากพุทธะ เพื่อเลือกทางเดินของตนเอง บางจิตญาณเลือกที่จะไม่สำเร็จเป็นพุทธะเพื่อที่จะฉุดช่วยสัตว์นรกให้หมดก่อนก็มี นี่คือ “เสรีภาพที่จะเลือกทางของตนเอง” แม้ว่าเราจะมาจากพุทธะแต่เราไม่จำเป็นต้องกลับคืนสู่พุทธะก็ได้ หรือจะกลับคืนสู่พุทธะก็ได้เช่นกัน คำว่าเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะไม่ได้แปลว่าเราคือพุทธะอยู่แล้ว เราแค่มาจากพุทธะเพื่อมาเป็นสิ่งอื่นอวตารอยู่ในรูปนามอื่นๆ ที่สามารถฉุดช่วยสรรพสัตว์ได้มากขึ้นเพราะความเป็นพุทธะนี้สูงส่งเกินเอื้อมของสัตว์ทั้งหลาย ไม่จำเป็นต้องยึดติดความเป็นพุทธะก็ได้ครับ คนที่หลงว่าตนเป็นพุทธะอยู่แล้ว เพราะไม่เข้าใจการอวตารลงมา นั่นเอง

๕ โลกนี้ไม่ได้ถูกสร้างให้พุทธะ?
โลกธาตุที่สร้างไว้ให้พุทธะเรียกว่า “พุทธเกษตรโลกธาตุ” ที่นั่นคือที่อยู่ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ส่วนโลกใบนี้มีชื่อว่า “ตรีสหัสสโลกธาตุ” หมายถึง โลกธาตุที่มีสามภพ นั่นเอง ในโลกธาตุนี้ ไม่มีวิมานของพระพุทธเจ้าเลย ไม่มีที่ให้พระพุทธะอยู่เลย พุทธะทั้งหลายหากกำเนิดจากมนุษย์ในโลกนี้แล้ว จะต้องรอเวลาจุติไปยังโลกธาตุของตนเอง จะทำอะไรมากเกินไป เกินขอบเขตในโลกนี้ ไม่ได้ ดังนั้น ในโลกนี้ จึมีแต่ที่อยู่ของมาร ไม่มีที่อยู่ของพุทธะ เพื่อให้มารคอยขวางไม่ให้พุทธะทำกิจก่อนเวลาอันควร มีแต่ที่อยู่ของโพธิสัตว์ชั้นดุสิต แต่ไม่มีที่อยู่ของพุทธะ เพื่อให้โพธิสัตว์คอยทำกิจแทนพุทธะ ไม่ให้องค์พุทธะต้องลงมากระทำกิจเองครับ

องค์พุทธะในพุทธเกษตร ดูแลโลกธาตุ อนันตจักรวาล ไม่ใช่แค่โลกนี้ครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?