ปฏิบัติธรรมด้วยการกระทำออกมา
ในบทความก่อนๆ
ได้กล่าวไปแล้วว่าการกระทำสำคัญมากกว่าการพูดและคิด เพราะมันบิดเบือนความจริงได้ยากกว่าการพูดและคิด
ดังนั้น จึงเน้นให้กระทำให้มากๆ
กระทำออกมาเพื่อที่จะดูว่าภายในของเราเป็นอะไร เราปฏิบัติธรรมได้ผลจริงไหม?
มีพลังงานแฝงอะไรหรือไม่? ในบทความนี้จะขออธิบาย ดังต่อไปนี้ครับ
๑ การกระทำสามระดับ
การกระทำของคนเรานั้นมีสามระดับคือ
ระดับปกติ ระดับลึก และระดับเปลือกนอก คำว่า การกระทำระดับปกติก็คือ
การกระทำที่ตรงกับจิตวิญญาณข้างในที่เราเป็นอยู่ กระทำออกมาตรงๆ เราเป็นอย่างไรก็กระทำออกมาเช่นนั้น
ส่วนการกระทำระดับเปลือกนอกหมายถึง
การกระทำที่เกิดจากการ “นำเอาสิ่งภายนอก” มาห่อหุ้มคลุมตัวให้ดูดี เช่น
อิทธิพลจากสังคม, คำสอนเรื่องคุณธรรมต่างๆ ฯลฯ ทำให้เรามีเปลือกนอกที่ดูดีได้
ส่วนกระทำระดับลึกก็คือ การกระทำจากตัวตนที่แท้จริงของเราที่ถูกกดข่มซ่อนไว้เบื้องลึกในตัวเราเอง
ทว่า จะออกมาได้ต้องถูกสถานการณ์บีบคั้นอย่างหนัก คนเราจึงจะเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาได้ยังไงละครับ
๒ การกระทำจากธาตุแท้
ดังที่กล่าวแล้วว่าการกระทำของคนเรามีสามระดับ
การที่เราจะเห็น “ธาตุแท้” ได้นั้น ต้องดูจากการกระทำของคนๆ นั้น
และการที่คนเราจะเผยธาตุแท้ออกมาได้นั้นจะต้องตกอยู่ใน
“สถานการณ์คับขันหรือบีบคั้น” เช่น เมื่อต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่,
ใช้แรงอย่างเต็มที่ กระเทยแอ๊บแมนบางคน พอต้องตบวอลเล่ย์ ต้องใช้แรงมากๆ
ร้องเสียงกระเทยออกมาเลยก็มี อันนี้ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพนะครับ ว่าการแอบซ่อนตัวตนที่แท้จริงทำให้คนอื่นมองไม่เห็นนั้น
มีอยู่ และเราจะต้องให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้น ตัวตนที่ถูกซ่อนไว้นั้นจึงจะเผยออกมา
ดังนั้น คนเราจะตัดสินกันในสถานการณ์ปกติ ไม่ได้ ต้องดูใจกันยามคับขันครับ
๓ ตัวตนในสถานการณ์คับขัน
ดังที่กล่าวแล้วว่า
“ในสถานการณ์คับขัน” การกระทำที่แท้จริงจะปรากฏ ตัวตนที่แท้จะแสดงให้เห็น
เราก็จะเห็นธาตุแท้ของคนเราได้ ทว่า
คุณต้องไม่ลืมว่าหากจะตัดสินคนในสถานการณ์คับขัน คุณจะเอาเกณฑ์ของคนในยามปกติมาใช้
ไม่ได้ เช่น ยามตกทุกข์ได้ยาก เสี่ยงชีวิต เขาอาจดุด่าสารพัดแต่ถ้าเขาไม่ทิ้งคุณ
นั่นคือ ใช้ได้ แต่คุณจะไปตัดสินเขาที่เขาดุด่าคุณ มองว่าเขาเป็นคนเลว ไม่ได้
เพราะเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่มาก เขาก็ต้องมีกิเลส มีอารมณ์ มีความโกรธ เป็นธรรมดา
หลายคนชอบไปไล่จี้ให้คนอื่นโกรธ พอเขาโกรธแล้วก็จะ “ใส่ร้ายป้ายสี” เขาทันทีว่า
“นั่นแน่ ธาตุแท้แกปรากฏแล้ว แกไม่ใช่อรหันต์ รุมกระทืบมันซะ” ก็มี
๔ การกระทำคือภาพสะท้อน?
การกระทำคือภาพสะท้อนพลังงานภายใน
ในขณะที่การพูดและการคิดอาจสร้าง, ประดิษฐ์หรือบิดเบือนได้ คนชั่วอาจทำเป็นพูดดีก็ได้
แต่การกระทำจะบิดเบือนได้ยากกว่า และสะท้อนสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ
จากภายในได้ดีกว่าเช่น คนที่ทำงานฝีมือแบบไทยๆ ได้จะต้องมีพลังแบบไทยๆ
จิตวิญญาณแบบไทยๆ คนที่ไม่มีแบบนี้ ทำให้ตายยังไงก็ทำไม่ได้ บางคนทำเป็นพูดดี
โอ้อวดไปทั่วว่ามีคุณธรรม พอให้ทำงานออกมา งานแย่มากก็มี คนเราถ้ามีสติ มีสมาธิดี ฝึกจิตมาดี ปฏิบัติธรรมได้ผลดี
จะต้องทำงานออกมาได้ดี ถ้าทำออกมาได้ไม่ดี ก็แสดงว่าภายในมีปัญหา
มีอะไรไม่ดีอยู่แน่นอน ตรงนี้โกหกไม่ได้ ต่อให้ปากเก่ง ปากดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
๕ จงใช้การกระทำแบบง่ายๆ
อย่าไปใช้การกระทำแบบอาชีพ เช่น งานฝีมือ,
งานอาชีพ ฯลฯ ไม่ต้อง ทำอะไรก็ได้ง่ายๆ
แล้วพิจารณาดูก็จะรู้เท่าทันสิ่งที่อยู่ภายในของเราได้ เช่น กวาดลานวัด
ถ้ากวาดกระจัดกระจายอยู่นั่น ไม่รวม ไม่สะอาดได้สักที
แสดงว่าจิตข้างในฟุ้งซ่านแล้ว เช็ดกระจก เช็ดจานแต่ดันมีคราบเต็มไปหมด นี่แสดงว่าภายในสกปรก
มันก็สะท้อนออกมาที่การกระทำ เด็กสมัยใหม่บางคนไม่มีใครสอนคอมพิวเตอร์ อยู่ๆ
มาเล่นเกมคอมฯ ได้เฉยเลย นี่ก็เพราะภายในของเขาไม่ใช่มนุษย์โลกธรรมดา อาจเป็นพวกมนุษย์ต่างดาวก็ได้
ของบางอย่างคนบางคนเท่านั้นจะทำได้ บางคนพยายามแทบตาย ทำยังไงก็ทำไม่ได้ ก็มี
นี่เพราะพลังภายในไม่เหมือนกัน
คนเราสมัยนี้นั้น
หลอกตัวเองเก่งด้วยคำพูดและความคิดครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น