การกระทำโดยไม่กระทำ?




คนที่หลุดพ้นแล้วจะยุ่งเรื่องทางโลกอีกได้หรือไม่? หลายคนอาจมีคำถามแบบนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะหลุดพ้นแล้วเขาจะไม่ยุ่งแล้วครับ เช่น พระอรหันต์ แต่สำหรับท่านที่ไม่รีบ สามารถเข้ามายุ่งได้เช่นกัน เช่น พระโพธิสัตว์ แต่การที่จะเข้าไปยุ่งกรรมของคนอื่นหรือระบบใดๆ เราต้องมีภูมิปัญญาที่ดีก่อน ดังต่อไปนี้

๑ พลังงานพัวพันในระบบ
หากคุณหลุดพ้นจากระบบที่ต่ำกว่ามาสู่ระบบที่สูงกว่าได้แล้ว คุณจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับระบบที่ต่ำกว่านั้นอีก เพราะอะไร? เพราะพลังงานในระบบนั้นมันจะผูกมัดตัวคุณให้ตกต่ำลงไปได้อีกครับ คุณต้องอุเบกขาอย่างเดียว เหมือนพระที่ไม่ยุ่งเรื่องทางโลกแล้วนั่นแหละ แต่ถามว่าพระไม่ยุ่งเรื่องอะไรเลย และทำอะไรไม่ได้เลย ใช่ไหม? ไม่ใช่ครับ พระบางรูปท่านแค่ไม่ยุ่งเรื่องทางโลก แต่เรื่องอีกมิติ อีกภพภูมิท่านจะยุ่งด้วยก็ได้ แต่ต้องยอมรับก่อนว่าหากเราเอาตัวเองเข้าไปพัวพันในระบบใดก็แล้วแต่ เราก็จะมีพลังงานกรรมยึดโยงให้เราติดอยู่ในระบบนั้น ระดับนั้นๆ เช่น ถ้าเข้าไปทำกรรมเกี่ยวข้องกับสวรรค์ ก็ผูกติดกับสวรรค์ด้วย

๒ การกระทำนอกระบบ
เหมือนเราเลี้ยงปลาในบ่อ เราไม่ได้อยู่ในบ่อ เราอยู่นอกบ่อ แต่การกระทำของเรากระทบต่อปลาและชีวิตต่างๆ ในบ่อน้ำนั้นมากมาย นี่คือ ตัวอย่างของการกระทำนอกระบบ เช่น ถ้าคุณต้องการกระทำต่อระบบการเมือง คุณสามารถเอาตัวเองออกนอกระบบการเมือง แล้วใช้วิธี “กระทำโดยไม่กระทำ” ระบบการเมืองนั้นก็จะเหมือนหมากในกระดานให้คุณเดินเล่นได้ ด้วยวิธีนี้ คุณก็จะพัวพันกับพลังงานในระบบน้อยมากๆ ครับ แต่คุณต้องมีสติ ระวังตัวอย่างมากที่จะไม่เผลอเอาตัวเข้าไปสู่ระบบนั้นๆ ด้วย หรือหากเข้าไปก็จะต้องออกมาจากระบบนั้นให้ได้ ก่อนที่พลังงานพัวพันในระบบจะกลืนคุณเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในระบบนั้นๆ ครับ

๓ ตัวหมากกับผู้เดินหมาก
สองสิ่งนี้ต่างกันมาก พลังอำนาจต่างกันมากครับ กล่าวคือ หากคุณเป็นแค่ “ตัวหมาก” ในระบบ คุณก็ทำได้แค่ถูกเขาจับเดิน เขาสั่งให้ทำงานไปวันๆ คุณก็ต้องก้มหน้าทำงานไป แต่หากคุณเป็น “ผู้เดินหมาก” คุณจะสามารถทำให้เกมมันเป็นไปอย่างไรก็ได้ ตัวหมากแต่ละตัวคุณจะให้อยู่หรือไปหรือเดินไปทางไหนก็ได้ นี่คือ ข้อดีของการกระทำโดยไม่กระทำ ซึ่งคุณจะทำเช่นนี้ได้ คุณต้องอยู่นอกระบบก่อนจากนั้นเข้ามานั่งในฐานะผู้เดินหมาก ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ครับ บางคนไม่สามารถเข้ามากระทำหรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับทางโลกได้ก็มี แต่บางคนก็สามารถเข้ามากระทำ ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก บันดาลให้สิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างที่ตนเองต้องการได้

๔ หัตถ์แห่งพระเจ้า
หรือมือที่มองไม่เห็น (Invisible hand) ก็คือ การกระทำจากคนที่ไม่มีใครรู้จัก ราวกับว่าไม่มีตัวตนในระบบ ไม่ต้องรับผิดชอบและไม่ต้องรับผลกระทบอะไรจากระบบเลย เพราะเขาอยู่นอกระบบ เป็นผู้เดินหมากไงละครับ มือของเขาที่กระทำต่อระบบย่อมไม่ต่างอะไรกับ “หัตถ์แห่งพระเจ้า” ที่สามารถจับวางหมากแต่ละตัวให้ดำเนินไปตามที่เขาต้องการได้ ในระดับโลก “มือที่มองไม่เห็น” นั้นมีอยู่เสมอ และมีอยู่ในทุกระบบ ทุกๆ วงการ ไม่ต่างอะไรกับพระเจ้าแห่งวงการนั้นๆ หากคุณต้องการอะไรจากวงการนั้นๆ คุณต้องผ่านเขาก่อน หากเขาอนุมัติให้ คุณก็จะได้ แต่หากเขาไม่อนุมัติให้ คุณก็ไม่มีทางได้ครับ เช่น เจ้าหนี้ที่ให้เงินมาสร้างหนัง

๕ ความไร้เจตนา
การมีเจตนาที่ชัดเจนเกินไปย่อมถูกทำลายได้ง่าย เมื่ออีกฝ่ายรู้เจตนาของเรา ก็จะพยายามขัดขวางให้เราไม่อาจทำได้ตามเจตนานั้น นอกจากนี้ การที่เราทำได้ตามเจตนามากเกินไป จะทำให้เราได้รับผลกรรมที่มากเกินไป แรงกระทบจากระบบ จะสะท้อนกลับมาที่เราอย่างแรงครับ ดังนั้น เราจะกระทำด้วยเจตนาที่มากเกินไป ไม่ได้ เช่น ถ้าประเทศไทยมีกรรม เราอยากช่วย เจตนาดีก็เข้าไปช่วย เราเป็นใครครับ? เราก็แค่ฝุ่นผงในจักรวาล เข้าไปปะทะกับกรรมของประเทศ เราก็ต้องแย่ก่อน ดังนั้น การจะช่วยใครหรืออะไรก็ตาม เราจำเป็นจะต้อง “ไร้เจตนา” ให้ได้ก่อน หรือถ้าจะให้ดี “ใช้เจตนาร้ายบังหน้า” ทำงานแทน จะได้ผลดีกว่า
                                                                   
กรรมของสัตว์ในระบบ เราจะเข้าไปช่วยมากเกินไป ไม่ได้ครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?