ระบบการต้อนสัตว์ของพระศากยมุนี
พระพุทธเจ้าทั้งหลายจะประทับอยู่
ณ พุทธเกษตร จากนั้นท่านจะวางแนวทางในการโปรดสัตว์ในโลกนี้ยาวเป็นกัปๆ ครับ เพื่อสร้างสิ่งต่างๆ
แม้แต่ระบบสามภพของโลกนี้ ท่านก็จะต้องสร้างด้วย
ทั้งหมดก็เพื่อต้อนให้สัตว์ทั้งหลายเข้าสู่ทางที่ควรจะไป
ในบทความนี้จะอธิบายเรื่องระบบที่พระศากยมุนีใช้ต้อนสัตว์ ดังต่อไปนี้
๑ หลอกดักพวกที่คิดว่าตนฉลาด
พระศากยมุนีพุทธเจ้าเลือกโปรดคนฉลาดไปก่อน
คนโง่จะเหลือไว้ให้พระศรีอาร์ อันนี้หลายท่านเข้าใจดีนะ ถามว่าท่านจะทำยังไง?
ท่านไม่ได้เดินมาทดสอบความฉลาดแล้วเลือกไปหรอกครับ
แต่ท่านออกแบบระบบที่ทำให้คนฉลาดเลือกเดินลงไปเอง กล่าวคือ ระบบในโลกยุคนี้
คนฉลาดจะเอาเปรียบคนโง่ คนฉลาดจะทำกรรมเนียนๆ แล้วบอกว่าตนไม่ได้ทำกรรมอะไร ทว่า
นั่นแหละที่ทำให้เขาต้องเดินลงนรกไปเอง
เพราะความฉลาดและคิดว่าแนบเนียนพอที่จะทำให้คนไม่เห็นว่าตนเลวได้ นั่นเอง
คนฉลาดจะเลือกทางนี้ คนโง่จะไม่ได้ทางนี้ เพราะโง่และคิดแบบคนฉลาดไม่ได้ เมื่อนั้น
คนฉลาดก็จะตกหลุมพรางเดินเข้าสู่ระบบที่วางไว้นั้นเอง
๒ ต้อนสัตว์ให้เดินลงนรกไปเอง
คนฉลาดจะคิดว่าตนรู้แล้วใครอยากมาสอน
สุดท้าย จะกลายเป็นคนที่สอนไม่ได้
พระศากยมุนีพุทธเจ้ามีวิธีเฆี่ยนให้คนพวกนี้ยอมจำนนครับ
ด้วยการปล่อยให้ความฉลาดนำพาเขาลงนรกไปเอง เมื่อเขาตกนรกแล้วก็จะรู้เองว่า
“ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” เป็นอย่างไร? เมื่อพวกเขาทรมานในนรก เอาตัวเองไม่รอด
สุดท้าย ก็จะต้องยอมจำนน ใครก็ได้มาโปรดทีเถิด เมื่อนั้น
สัตว์เหล่านี้ก็พร้อมรับการโปรดจากพระพุทธเจ้าแล้ว ถ้าไม่ทำเช่นนี้
ก็โปรดไม่ได้ครับ เพราะคนฉลาดจะหลงตัวเองมากๆ อีกทั้งสัจธรรมนั้นเป็นนามธรรม
ไม่อาจจะพิสูจน์เอาชนะคะคานกันให้เห็นจริงได้ คนฉลาดก็จะใช้ความฉลาดเอาชนะคะคานคนอื่นแม้จะไม่จริงก็ตาม
๓ ระบบทุนนิยม
ระบบซาตาน
ระบบทุนนิยม
ระบบซาตานนั้นจะเอื้อต่อ “คนฉลาด” แต่ไม่มีปัญญา ดังนั้น พวกเขาจึงถูกซาตานหลอกได้
ซาตานจะหลอกให้คนฉลาดเหล่านี้ได้รับสิ่งต่างๆ ทางโลกมากกว่าคนโง่
ได้เป็นเศรษฐีร่ำรวย ฯลฯ แต่มันไม่จริง มันไม่ใช่ความร่ำรวยที่แท้จริง เพราะอะไร?
เพราะสัตว์มากมายอยากได้ความร่ำรวยแบบยุคพระศรีอาร์
การที่จะดักจับสัตว์แบบนี้ได้ก็ต้องเอาความร่ำรวยมาล่อ ทว่า
เพราะยุคนี้ไม่ใช่ยุคพระศรีอาร์ ความร่ำรวยก็เลยเป็น “ของปลอม”
ที่ดูเหมือนจริงมากๆ เนียนมากๆ เช่น เป็นวัตถุจับต้องได้ คนฉลาดก็คิดว่าตนได้มันละ
มันเป็นของเขาละ เพราะมองเห็นได้ จับต้องได้นี่นา? ทว่า
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแค่มายา หลอกล่อเท่านั้นเอง
๔ มนุษย์ไม่อาจมองเห็นสามภพ
นี่เป็นอีกวิธีที่จะหลอกล่อเอาคนฉลาดให้ตกไปในหลุมพรางได้ดี
เพราะคนฉลาดมองไม่เห็นสามภพจะคิดได้แค่ภพเดียวก็จะคิดว่าฉันต้องได้ครอบครองสิ่งต่างๆ
ที่ตามองเห็นได้นี้ ส่วนคนโง่ก็อยู่แบบจนๆ ไม่ได้อะไรไปสิ มันอยากโง่เอง
นี่คนฉลาดจะคิดแบบนี้ ทว่าคนฉลาดจะพลาดท่าเพราะมองไม่เห็นสามภพนี่ละ
เขาคิดได้แค่ภพเดียว ทว่า ในอดีตนั้นมนุษย์มีตาที่สามมองเห็นอีกมิติได้
มนุษย์ย่อมรู้ว่าโลกนี้มีสามภพ เพื่อที่จะดัดนิสัยความดื้อด้านสอนได้ยากของคนฉลาด
ดังนั้น จึงต้องหลอกล่อให้เขาตกนรกเอง
โดยไม่รู้ว่ามีนรก นี่คือ เหตุผลที่มนุษย์ในยุคนี้ไม่มีตาทิพย์
คนฉลาดยิ่งได้ครองวัตถุทางโลกก็ยิ่งจะห่างไกลจากความหลุดพ้นครับ
๕ ทำไมคนโง่ได้ไปยุคพระศรีอาร์ฯ
เพราะคนโง่คิดแบบคนฉลาดไม่ได้
เลยไม่ตกหลุมพรางของพระศากยมุนีที่สร้างไว้หลอกล่อคนฉลาดไงครับ
ทางที่คนฉลาดเลือกเดิน จะได้ดีแค่ภพนี้ ภพต่อไปไม่ดีเลย จะมีแต่ความทุกข์ทรมาน
นั่นคือ การเฆี่ยนเพื่อดัดนิสัยคนฉลาดให้เลิกหลงตัวเอง จะได้สอนได้ง่ายครับ
ส่วนคนโง่ไม่ได้เลือกทางเดินแบบคนฉลาด พวกนี้เลยไม่ได้อะไรอย่างคนฉลาด
ไม่ถูกต้อนเข้าสู่ระบบของพระศากยมุนี สุดท้าย
ก็รอดจากตระแกรงนี้ไปสู่ยุคของพระศรีอาร์ฯ ได้ เช่น คนโง่มีบุญแต่ถูกเอาเปรียบ
ถูกคนฉลาดโกง ทำให้บุญที่ควรได้รับ ไม่ได้รับ ทำให้บุญไปรออยู่ชาติภพหน้าเต็มไปหมด
ทำให้ไม่อาจรับผลบุญหมดทันยุคนี้ก็ต้องไปต่อยุคพระศรีอาร์ฯ ไงครับ
ระบบของพระศากยมุนีคือ
เฆี่ยนให้อ่อนค่อยสอนทีหลังครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น