การใช้พลังด้านมืดด้านลบ




หลายท่านสนใจการฝึกพลังจักรวาลกันมากและหลายท่านก็ใช้การอ่านเอา ฟังเอาจากเน็ต แต่ไม่ยอมหาครูบาอาจารย์ ทำให้ฝึกผิดพลาดกันเยอะครับ เมื่อผิดพลาดแล้วใครจะช่วยได้? ในเมื่อคุณไม่มีครูช่วยเหลือ ก็ต้องช่วยตัวเองทั้งๆ ที่ไม่รู้จะแก้ยังไง? ในบทความนี้จะขออธิบายถึงการใช้พลังจักรวาลด้านไม่ดี ดังต่อไปนี้

๑ พลังงานไม่เที่ยง ไม่ใช่อัตตา
เราไม่สามารถยึดมั่นถือมั่นพลังงานใดๆ ได้ เพราะมันไม่เที่ยง ไม่ใช่อัตตา สิ่งที่เราทำได้คือ หยิบยืมสมมุติใช้ให้เหมาะสมตามบริบทต่างๆ เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัวเท่านั้นเอง การยึดมั่นพลังที่ดี, พลังภาคสว่าง, พลังเชิงบวก ฯลฯ แล้วปฏิเสธพลังงานด้านตรงข้าม อาจทำให้คุณอยู่ในคอมฟอร์ตโซน แต่มันจะไม่ทำให้คุณโตเป็นผู้ใหญ่ในระดับจักรวาลได้ ดังนั้น คุณควรจะเปิดใจเรียนรู้ทุกอย่าง อย่างเป็นธรรมชาติ, อย่างไม่เลือกข้าง และอย่างไม่ยึดถือเป็นอัตตา เมื่อคุณเข้าใจหลักการเบื้องต้นนี้แล้ว คุณก็พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้พลังทุกอย่างอย่างเป็นกลางๆ ด้วยใจที่เป็นกลาง ด้วยทิฐิที่เป็นกลาง ที่มองทุกอย่างเป็นเพียงธรรมะ ธรรมชาติ

๒ การใช้พลังด้านลบโดยไม่เปลี่ยนแปลง
ทุกสิ่งมีเหตุผลของมันเอง ธรรมทั้งหลายล้วนเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับสิ้น ผลย่อมดับไปด้วย เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล ทั้งหมดนี้เป็นอนิจจัง อนัตตา ไม่ใช่ตัวกูของกู แต่เหตุปัจจัยปรุงประกอบไปในแต่ละบริบทเท่านั้น ดังนั้น แม้แต่พลังลบ, พลังมืด ฯลฯ ล้วนสามารถใช้ได้ทั้งหมด อยู่ที่ว่าคุณจะนำไปใช้ทำอะไร? คนที่เรียนรู้จะเข้าใจว่าพลังงานทุกแบบมีหน้าที่ของมันเอง และไม่มีสิ่งใดที่ไม่มีหน้าที่ของมัน พลังงานลบ พลังมืดก็มีหน้าที่ของมัน เฉกเช่นเดียวกับพลังมาร, พลังซาตาน ฯลฯ ทุกอย่างล้วนมีหน้าที่ของมันเอง และมันไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกด้วย คุณสามารถใช้พลังลบ, พลังมืดได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงมัน แต่จะต้องเหมาะสมกับบริบทครับ

๓ การใช้พลังด้านลบโดยมีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับท่านที่ยังไม่ชำนาญ ผู้เขียนแนะนำว่าให้ท่านใช้พลังลบ, พลังมืด โดยเปลี่ยนแปลงมันเป็นพลังด้านดีเสียก่อน “ไม่มีอะไรเที่ยง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้” พลังงานลบก็เปลี่ยนเป็นพลังงานคุ้มครองป้องกันได้เช่น เด็กที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์ หากมีพลังลบกับการมีกาม ก็จะช่วยป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้ นี่ไง พลังลบช่วยคุณได้ใช่ไหม? ช่วยในการบำเพ็ญพรหมจรรย์ก็ได้ ช่วยป้องกันตัวคุณเองจากบริบทที่ไม่ควรก็ได้ นี่คือ การแปรพลังงานลบให้เป็นพลังโพธิที่เรียกว่า “กิเลสเป็นโพธิ” คุณพอจะเข้าใจแล้วใช่ไหม? พลังลบ, พลังมืด ฯลฯ ล้วนแปรเปลี่ยนเป็นพลังด้านดีได้ และมันจะดีแค่ไหนถ้าคนอื่นทิ้งมัน แล้วคุณใช้มันได้?

๔ การใช้พลังลบทำให้คุณดูเป็นนางร้าย?
ใช่ครับ มันอาจทำให้คุณดูเป็นแบดบอยหรือไม่ใช่นางเอก แต่อย่าไปแคร์มันครับ หากคุณแคร์คนอื่นหรือสังคมมากไป คุณจะไม่เป็นตัวของตัวเอง และสูญเสียจุดยืนของตัวเองไป วันหนึ่งคุณจะไม่เหลือตัวเองในโลกนี้เลย หลายคนกลัวถูกคนมองว่าเป็นนางร้าย เป็นคนไม่ดี พวกเขาเลยพยายามเก็บกดสิ่งที่ไม่ดี พลังที่ไม่ดีในตัวเอง “ซ่อนไว้ในจิตใต้สำนึก” แบบนี้อันตรายกว่าครับ ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว พระเอกเกาหลียังแบดบอยเลย คุณจะกลัวอะไร? ทำตัวให้ทันสมัยหน่อย คุณก็ไม่ต้องเฟคที่จะต้องเป็นคนดี ใครจะมองคุณเป็นแบดบอยหรือนางร้ายก็ช่างมันปะไรสิ ขอเพียงคุณมีสติรู้ว่าคุณทำอะไรอยู่ก็พอ นี่คือสิ่งที่สำคัญกว่า

๕ ศิลปินยังสร้างสรรค์ผลงานจากความเศร้าโศกได้
จริงไหมครับ? ดังนั้น พลังงานทุกอย่างล้วนมีเอกลักษณ์ในตัวมันเอง ไม่ว่าจะเป็นพลังลบหรือพลังมืด มันก็มีคุณค่าในตัวเองทั้งสิ้น คุณอาจใช้พลังด้านไม่ดีเพื่อสร้างสรรค์งานออกมาดีๆ มีเอกลักษณ์ก็ได้ ใครจะรู้ ดั่งเช่นศิลปินที่ใช้พลังแห่งความเศร้าโศก สร้างสรรค์งานของเขา จะบอกอะไรให้นะ พลังงานด้านดีเขามีไว้อยู่เฉยๆ เหมือนเทวดาบนสวรรค์ มีบุญเข้าตัว ไม่ต้องทำอะไร แต่พลังด้านไม่ดีเขามีไว้ทำงานภาคพื้นโลกครับ อันนี้คือ กฏธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่หลายคนอาจยังไม่เคยเรียนรู้มาก่อน เคยเห็น “คนดีที่ไม่มีใครเอา” ไหม? นี่ละ เทวดาที่เขาเอาไว้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร “พลังดีมีไว้เก็บ พลังไม่ดีมีไว้ใช้ให้หมดๆ ไป” เข้าใจมั้ยฮะ?
                                                                   
ล. เอาพลังดีๆ ออกมาใช้หมด ระวังอนาคตจะมืดมนนะครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?