อาการของการสูญเสียจิตวิญญาณ




ปัจจุบันมีคนจำนวนมากเกินกว่า 50% สูญเสียจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ไปแล้ว กล่าวเช่นนี้ ดูไม่น่าเชื่อถือเลยใช่ไหมครับ เพราะดูด้วยตาภายนอกทุกคนก็ยังเป็นคนปกติดีอยู่ทั้งนั้น อยู่ๆ จะมาบอกว่าไม่เหลือความเป็นมนุษย์ได้ยังไง? ในบทความนี้จะขออธิบายลักษณะของคนที่สูญเสียจิตวิญญาณ ดังต่อไปนี้

๑ อาการไร้แรงบันดาลใจ ซังกะตายไปวันๆ
อาการคือ จะต้องได้รับ “แรงกระตุ้นจากภายนอก” อยู่เรื่อยๆ หากขาดแรงกระตุ้นจากภายนอกก็จะไม่อยากทำอะไรเลย หรือซังกะตายไปวันๆ ไม่มีแรงบันดาลใจในตัวเองที่จะทำอะไรด้วยตัวเองครับเช่น ต้องรอให้คนมาด่า, มาไล่, มาสั่งใช้ ค่อยทำงานได้ บางคนไหลตามกระแสทำตามๆ กัน คือ ไม่มีแรงบันดาลใจในตนเองก็เลยไหลตามกระแสโดยง่าย โดยเฉพาะกระแสสื่อ หลายคนทำอะไรตามสื่อ เห็นในสื่อก็แห่ทำตามๆ กัน นี่คือภาวะขาดแรงบันดาลใจในตัวเอง ต้องรอให้มีแรงขับดันจากภายนอกมาก่อน ก็จะไหลตามกระแสนั้นได้ สรุปสั้นๆ คือ หากไม่มีแรงขับดันจากภายนอก พวกนี้จะไม่มีแรงทำอะไร จะอยู่เหมือนคนซังกะตายไปวันๆ

๒ อาการไม่เป็นตัวของตัวเอง หาตัวเองไม่เจอ
เมื่อคนเราเสียความเป็นตัวของตัวเอง หรือเสีย self แล้วเขาจะรู้สึกว่างเปล่า เหงา วิเวกโหว๋เหว๋ จนอยู่ไม่ได้ ก็จะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อ “เยียวยาตัวเอง” ด้วยการทำให้ตัวเองดูมี “ตัวตน” ขึ้นมาเรียกว่าต้องการเป็น somebody เช่น อยากเป็นแบบ ริว จิตสัมผัส, เป็นเทพเจ้า, เป็นพระอรหันต์, เป็นฆราวาสผู้ทรงธรรม ฯลฯ นี่คือ ลักษณะการแสดงออกภายนอกที่เราจะสังเกตุเห็นได้จากคนที่ loss self หรือสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปแล้วครับ บ้างจะพยายาม “ค้นหาตัวเอง” เพื่อเอาตัวตนที่สูญเสียไปกลับคืนมา เคยเห็นคนที่ค้นหาตัวเองไหมครับ? อาการ “เป็นนั่นเป็นนี่” จะเกิดได้บ่อยๆ เช่น ฉันเป็นนั่น เดี๋ยวฉันเป็นนี่ เป็นอะไรกันนักหนา

๓ อาการปกป้องอีโก้ตัวเอง บนความไม่จริง
การปกป้องอีโก้ตัวเองเป็นอีกลักษณะของคนอ่อนแอ เมื่อคนเราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปแล้ว เขาก็จะอ่อนแอลง เปราะบางลง เหมือนแก้วใสที่เปราะบางและไม่มีแก่นสารภายใน ง่ายต่อการแตกออก ดังนั้น พวกเขาก็มีอาการ “ปกป้องอีโก้ตัวเอง” อย่างหนัก การปกป้องอีโก้ตัวเองมีหลายแบบเช่น ปกป้องความเชื่อที่มีต่อบางสิ่งหรือบางคน เช่น ใครอยากมาด่าคนที่ฉันศรัทธานะ ฉันจะต้องดิ้นอย่างสุดชีวิตเพื่อปกป้องราวกับว่าจะตายให้ได้ ทั้งที่จริงคนๆ นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตเราเลย เขาจะตายไปก็ไม่มีผลกับชีวิตเรา แต่เรายังไปปกป้องเขาทำไม คำตอบคือ เราปกป้องอีโก้ตัวเอง เพราะเราเอาความเชื่อไปผูกติดกับคนๆ นั้นไงละครับ

๔ อาการอิงกลุ่มเสมือนจริง ไม่เป็น individual
มนุษย์เราเป็นคนโดยสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้อง “อิงอาศัยสังคมหรือคนอื่น” เพราะอะไร เพราะเราไม่ใช่ชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบขององค์กรหรือสังคมใดๆ เราคือตัวเราเอง เป็นคนเต็มคนได้ด้วยตัวเองครับ ทว่า เมื่อใครสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปแล้ว เขาจะไม่อาจเป็น individual หรือเป็นคนที่สมบูรณ์ด้วยตัวเองได้ เขาจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคม, องค์กร หรืออะไรสักอย่าง เช่น คนเสื้อเหลือง, คนเสื้อแดง, คนอีสาน, ชนชั้นล่าง ฯลฯ คือ เขาไม่อาจเป็นตัวเอง เต็มๆ ตัว เป็นเขาจริงๆ ได้ เขาจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของอะไรอยู่เสมอครับ บางคนอาการหนักมาก เช่น ไม่อาจแสดงความเห็นทางการเมืองได้ถ้าไม่มีพรรคพวกไม่ได้ชื่อว่าเสื้อแดง ก็มี

๕ อาการเหมือน “หุ่นแอนดรอยด์” ที่ถูกโปรแกรม
อาการคือ จะเหมือนคนที่ถูกสั่งหรือโดนยาสั่งให้ทำหรือไม่ให้ทำบางอย่าง ถ้าฝ่าฝืนจะเกิดอาการเหมือนจะเป็นจะตายขึ้นมาให้ได้ มนุษย์ปกติไม่เป็นเช่นนี้ครับ มนุษย์เราไม่มีอาการจะเป็นจะตายขนาดนั้น หากเราทำหรือไม่ทำอะไร ก็ไม่เป็นไร แต่พวกที่โดนฝังชิพ, ลงโปรแกรม, โดนยาสั่ง ฯลฯ พวกนี้จะมี “อาการชัดเจน” เห็นได้ชัดเลย บ้างดิ้นจะเป็นจะตายให้ได้ บ้างจะต้องทำให้ได้ ราวกับจะเป็นจะตายอะไรอย่างนั้น พวกนี้คือ พวกที่โดนของบางอย่าง เหมือนถูกลงโปรแกรม และจะโดนทีเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ครับ เพราะของที่เขาทำ ผ่านทางสื่อได้ ผู้รับสื่อก็โดนวางยาสั่งพร้อมกัน คนที่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง จะโดนเล่นงานได้ง่ายครับ

อาการทั้งห้าอย่างนี้พบได้ในคนไทยยุคปัจจุบัน จำนวนมากครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?