เก่ง-ฉลาดก็อาจสูญพันธุ์ได้?

บทความก่อนอธิบายถึงการวิวัฒนาการครั้งใหญ่ของมนุษย์มาแล้ว ทว่า เรื่องราวของการวิวัฒนาการและการกำเนิดโลกใหม่นั้นมีเนื้อหารายละเอียดมาก ยากที่จะเข้าใจได้โดยง่าย ผู้เขียนจึงต้องทยอยเขียนสั้นๆ วันละน้อยเพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้ ในบทความฉบับนี้จะขออธิบายเรื่องการวิวัฒนาการต่อ ดังต่อไปนี้ครับ

๑ โลกกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

โลกเก่ากำลังสิ้นไป โลกใหม่กำลังเกิดมาแทนที่ โลกไม่ได้จบสิ้น วันสิ้นโลกยังมาไม่ถึง แต่วันสิ้นโลกเก่าเพื่อไปสู่โลกใหม่ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไป ทุกสรรพชีวิตในโลกก็ต้องเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่ามนุษย์ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการวิวัฒนาการดังกล่าว สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใครมีอำนาจมากกว่าจะมากำหนดอะไรใครได้ แต่มันเป็นเรื่องของโลก ของการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้ครับ สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็เพียงแค่ “วิวัฒนาการให้ทันโลก” การวิวัฒนาการให้ทันโลก ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องซื้อของใหม่ๆ ล้ำๆ ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องมีความรู้มากก้าวล้ำ, ไม่ได้แปลว่าคุณต้องมีอำนาจข่มใคร

๒ การวิวัฒนาการในระดับจิตวิญญาณ

มนุษย์จะมีการวิวัฒนาการในระดับจิตวิญญาณ หรือที่หลายคนเรียกว่า “การเลื่อนระดับ” ดังที่กล่าวแล้วว่ามันไม่ใช่การมีอำนาจกดข่มใคร, ใช้กำลังเหมือนไดโนเสาร์, ใช้ความรู้มากมาย ก็หาไม่ การวิวัฒนาการไม่ใช่เรื่องอะไรทำนองนั้น แม้คุณมีพลังมหาศาลเหมือนไดโนเสาร์แต่คุณอาจปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ และคุณอาจถูกจัดสรรให้สูญพันธุ์ก็ได้ การมีความรู้มาก ฉลาดมากก็ไม่ได้ช่วยอะไร สัตว์ในโลกมากมายที่มีสมองน้อยแต่มันยังอยู่รอดได้ก็มี คุณต้องทำความเข้าใจเรื่องการวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณให้มาก หาไม่แล้วคุณจะเข้าใจผิด คุณจะคิดว่าต้องเอาชนะเหนือเผ่าพันธุ์อื่น ทว่า กลับไม่เกิดการเลื่อนระดับขึ้นเลยก็ได้

๓ คนโง่ คนอ่อนแอ อาจเลื่อนระดับได้?

คนบางคนอ่อนแอ เกิดมาก็มีโรคประจำตัวเลยก็มี พวกเขาเหมือนสัตว์ทดลองของจักรวาลที่ถูกทดลองให้มีโรคประจำตัวหลายคนตายเพราะโรคเหล่านี้ ทว่า หากบางคนไม่ตายแถมยังสามารถอยู่รอดในโลกได้ต่อไปละ คุณคิดว่ามันคืออะไร? นี่ไงครับ ที่ผู้เขียนกำลังบอกคุณว่ามันมีการวิวัฒนาการอยู่ และมันไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะต้องมีพละกำลังมากเหมือนไดโนเสาร์หรือฉลาดมากเหมือนมนุษย์ต่างดาว ตรงข้าม คนโง่คนอ่อนแออาจวิวัฒนาการสำเร็จก็ได้ ใครจะรู้ เพราะสิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น และยิ่งไม่ได้อยู่ที่คุณทำงานหาเงินได้เก่งแค่ไหนอีกด้วย เรื่องการวิวัฒนาการ ก็คือการวิวัฒนาการ มิใช่เรื่องอื่นที่จะเอามาใช้แทนที่กันได้ครับ

๔ กฎของการคัดเลือกทางธรรมชาติ

ธรรมชาติจะคัดสรรพันธุกรรมที่ใช่เอาไว้ และจะกำจัดพันธุกรรมที่ไม่ใช่ให้สิ้นไป ไม่มีใครมีอำนาจเหนือสิ่งนี้ มนุษย์เป็นแค่เศษฝุ่นผงเมื่อเทียบกับจักรวาล ต่อให้เราเก่งแค่ไหน? ฉลาดแค่ไหน? อวดเบ่งลำพองใส่ใครได้ ทว่า หากคุณไม่ใช่ คุณก็จะถูกธรรมชาติ “คัดทิ้ง” ออกไปอย่างง่ายดาย มนุษย์จะตายมากไหม? มากสิครับ ในกระบวนการคัดทิ้งพันธุกรรมที่ไม่ใช่นี้ มนุษย์จะต้องตายมากมาย ที่เหลือ ที่เป็นพันธุกรรมที่ใช่ จะอยู่รอดต่อไป สัตว์หลายชนิด หลายเผ่าพันธุ์ รวมทั้งคนหลายประเภท จะทำตัวผิดปกติพวกเขาจะมีการแก่งแย่งกันรุนแรงมาก ราวกับสัตว์ในป่าที่กินกันเป็นทอดๆ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของมัน นี่คือสงครามที่ดุเดือดเกินคาดคิด

๕ มนุษย์โลกใหม่ พันธุกรรมใหม่

มนุษย์ที่ผ่านการวิวัฒนาการ ธรรมชาติจะจัดสรรให้อยู่ได้ต่อไป และกลายเป็น “พ่อพันธุ์แม่พันธุ์” เพื่อที่จะขยายเผ่าพันธุกรรมที่ใช่ต่อไป มนุษย์กลุ่มหนึ่งจะเลื่อนระดับไปเหนือมนุษย์ พวกเขาคือ มนุสสเทโวที่ลงมาเพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาเหล่านี้ไม่มีหน้าที่สืบพันธุ์ แต่มีพันธุกรรมที่ดีมากๆ เหนือมนุษย์เลย แต่พวกนี้จะมีน้อยมากๆ พวกเขาจะได้รับพลังอำนาจพิเศษจากจักรวาล ทำให้สามารถเอาชนะเผ่าพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่ ไม่ถูกคัดเลือก ได้ ส่วนมนุษย์ที่เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์นั้น พวกเขาอาจต้องมีกามมากเพื่อจะได้มีลูกเยอะๆ และสิ่งนี้ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ชาติใดๆ ทั้งหมดอยู่ในการจัดสรรโดยธรรมชาติทั้งสิ้น

อนึ่ง ผู้คนจะมีพฤติกรรมเพี้ยนไป นี่คือ ส่วนหนึ่งของการวิวัฒนาการครับ!