พลังแท้ VS พลังแฝง
ปัจจุบันคนจำนวนมากมีพลังแท้อ่อนลง ลดลง
ร่อยหรอลง เหลือ 10-20% แต่พวกเขากลับดูมีพลังมากขึ้น
เพราะนั่นคือ “พลังแฝง” นั่นเองครับ ถามว่าทราบได้อย่างไร? ก็ง่ายๆ เลยครับ
ถ้าคุณใช้ชีวิตตามปกติทำกิจได้ตามปกติไหม? หรือต้อง “โด้ฟ”
หลายคนต้องโด้ฟอะไรสักอย่างขาดไม่ได้ครับ เช่น กาแฟ เป็นต้น หาไม่ก็จะอ่อนแรง
หมดพลัง ทำงานการอะไรไม่ได้ นั่นละครับ พลังแท้ของคุณแท้จริงแล้วมีแค่นิดเดียวเอง
แต่ด้วยอาศัยพลังแฝง เสริมอยู่เรื่อยๆ ทำให้ดูเก่งดี มีพลังมากมายได้ ในบทความนี้จะขออธิบายความแตกต่างของพลังแท้และพลังแฝง
เพื่อให้ผู้อ่านสามารถสังเกตุเองได้ง่ายๆ แยกแยะได้ง่ายๆ ด้วยตาเปล่า ต่อไปนี้ครับ
๑ พลังความสามารถไม่คงที่
บางครั้งเหมือนเก่งดีมีพลังมาก
แต่บางครั้งหมดเรี่ยวแรงไร้พลัง ทำอะไรไม่ได้เรื่องเลย นี่ละครับ อาการที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังยืมพลังแฝงมาใช้อยู่
ทว่า เมื่อคุณกำลังจะหมดพลัง คุณก็จะหาอะไรบางอย่างมาเสริมให้ตัวเองด้วยการ “โด้ฟ”
ด้วยอาหาร, เครื่องดื่ม ฯลฯ บางชนิด หรือเติมพลังด้วยการออกไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง
เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าพลังชีพของคุณอ่อนลงมาก ร่อยหรอลงมาก
และคุณกำลังใช้พลังแฝงอยู่ ไม่ใช่พลังของคุณจริงๆ แม้ว่ายามที่คุณใช้พลังแฝง
คุณจะดูเก่งดีมีพลังมากเท่าใด แต่เมื่อไม่มี คุณจะแย่มากเลย
๒ ติดต้องกินอะไรบางอย่าง?
เช่น กาแฟ,
เครื่องดื่มชูกำลัง, น้ำหวาน, น้ำปั่น, หมากพลู, เหล้า, บุหรี่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ได้ว่าพลังแฝงของคุณคืออะไร?
เช่น พลังสายฤษีจะกินหมากพลู, พลังสายยักษ์อสูรจะกินเหล้าบุหรี่,
พลังสายกุมารจะกินน้ำปั่นน้ำหวาน, พลังสายซาตานหรือภาคมืดจะกินกาแฟ ฯลฯ
เหมือนกับบอปที่มีพฤติกรรมการกินผิดไปจากปกติ เพียงแต่อาหารพวกนี้ดู “ปกติ”
ในสายตามนุษย์ไปแล้วเท่านั้นเอง หากคุณกินตามปกติก็ไม่แปลกครับ ทว่า หลายคนไม่ปกติ
เพราะเป็นการกินแบบเสพติด ขาดไม่ได้ ขาดแล้วจะหมดเรี่ยวแรงหรือง่วงทั้งวันครับ
๓ มีความสามารถสูงเกินมนุษย์ปกติ
มนุษย์ปกติต่อให้สำเร็จวิชากลายเป็นเทพ
ก็ยังต้องมีตบะ ตบะคืออะไร? ตบะคือ ระดับกำลังจิตที่เกิดตามจำนวนปีที่เราทำสมาธิ
ถ้าเราเพิ่งสำเร็จเทพใหม่ๆ เรายังไม่มีตบะหรือตบะอ่อน เช่น
สำเร็จกายพรหมแต่ไม่มีตบะพรหม กำลังญาณในการหยั่งรู้ของเราจะต่ำ
การทำนายหรือมองเห็นอนาคตจะไม่มากนัก แต่หากว่าความสามารถนี้ “สูงมากเกินปกติมนุษย์”
ก็อาจเพราะมีพลังแฝงครับ พลังแฝงนั้น บางตนมีตบะเป็นร้อยๆ พันๆ ปีก็มี
ทำให้ร่างนั้นดูเก่งเว่อร์ผิดมนุษย์ไปเลย เช่น ปีศาจที่มีตบะพันปี
เมื่ออยู่ร่างใคร ก็จะเก่งเว่อร์ครับ
๔ ไม่เป็นตัวของตัวเองได้แท้จริง?
หลายคนมักคิดไปเองว่าเราเป็นตัวของตัวเอง มีอิสระ
สิ่งที่เราคิดหรือทำล้วนเป็นตัวของตัวเองทั้งหมด ทว่า หลายคนคิดผิด
เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ แต่เป็นได้แค่ “หุ่นยนต์”
หรือร่างของบางสิ่งก็คือ หุ่นเชิดน่ะละครับ
แต่ไม่มีใครเชิดให้เราเห็นเพราะพลังแฝงจะครอบงำเราอย่างแนบเนียน
และเราไม่อาจจะเห็นพลังแฝงนี้ได้ด้วยตาเปล่า เคยไหมครับที่เอะใจว่า เราทำแบบนี้ไปทำไมนะ?
เราไม่น่าทำแบบนี้เลย? แต่ทำไมเราควบคุมตัวเองไม่ได้ มันไม่ใช่เรานะ
เราไม่ได้เจตนาจะทำนะแต่ดันทำไปแล้วเหมือนเจตนาเลยครับ
๕ ยิ่งใช้พลังกลับยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
คำว่าแย่ลงในที่นี้คือ “ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ปกติ”
นะครับ เช่น เคยอยู่บ้านธรรมดา ได้เป็นปกติก็เริ่มไม่ได้ละ ต้องหอบสังขารไปนอนโรงแรม
ถึงจะมีความสุข เคยอยู่เงียบๆ คนเดียวไม่มีใคร ก็ยังอยู่ได้
แต่แล้วก็เริ่มอยู่ไม่ได้ละ ต้องมีสาวกบริวาร ห้อมล้อมหน้าหลัง มารุมล้อมกราบไหว้
ถ้าไม่มี เริ่มหวิวๆ เริ่มใจไม่ค่อยดีละ แบบนี้แหละครับ พลังชีพที่เป็นพลังงานของมนุษย์กำลังอ่อนลง
ลดลงเรื่อยๆ แต่เราไม่รู้ตัวขาดสติด้วยมีพลังแฝงมาแทนที่ให้ใช้อยู่เสมอ
เราก็หลงคิดไปสิว่าเราเก่ง เรายังมีพลังมาก ที่ไหนได้ มันไม่ใช่พลังเราเลย
ทางแก้คือ ต้องมาเรียนรู้การพัฒนาพลังปราณอย่างถูกวิธีให้ได้
เพื่อฟื้นฟูพลังภายในที่อ่อนด้อยให้กลับคืนมาครับ
แล้วเราจะไม่ต้องหยิบยืมใช้พลังภายนอกหรือพลังแฝงอีกเลย เราก็จะกลับมาเป็นปกติได้นั่นเอง
หาไม่แล้วเราจะกลายเป็น “ร่าง” ที่ถูกพลังแฝงนั้นยึดครอง จนไม่เหลือความเป็นมนุษย์และตัวเองอีกต่อไปเลย
พลังแฝงนั้นจะครอบงำทั้งร่างกายและจิตใจเราได้ด้วยครับ
สงสัยที่ต้องจุดกำยานทุกครั้งที่นั่งทำงาน นี่ น่าจะเป็นเทพแฝงร่างใช่มั้ยคะ
ตอบลบอาจเป็นพลังเทพบางส่วน ไม่ใช่การแฝงร่างก็ได้
ตอบลบ