คุณปฏิบัติธรรมพอดีกับตัวหรือเปล่า?



การปฏิบัติธรรมต้องมีความ “พอดี” กับตัวเราที่เราเป็นอยู่ ในบทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับ ดังต่อไปนี้ครับ

๑ ต่อให้เห็นใครดี ก็เลียนแบบเขาไม่ได้
พระอรหันต์, พระโพธิสัตว์ ฯลฯ ท่านจะดีแค่ไหนก็ตามแต่นั่นคือตัวท่าน เราทำได้คือ ศรัทธาหรือชื่นชมท่านไป แต่มิใช่ว่าเราจะไปทำตามอย่างท่าน เลียนแบบท่านได้นะ เพราะคนเราไม่เหมือนกัน บุญกรรมทำมาไม่เหมือนกัน เอาท่านเป็นแบบอย่าง แนวทางได้ แต่สุดท้าย เราจะรู้ว่าคนเราไม่เหมือนกัน บางอย่างเราจะทำตามเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ เราคือ ฆราวาส เราจะไปเลียนแบบพระเขาไม่ได้ เราต้องปฏิบัติในแบบของฆราวาส

๒ เราเป็นสัตว์ในกลุ่มใด ก็ทำแบบนั้น
ถ้าเราเป็นเสือ เราก็ต้องทำแบบเสือ ถ้าเราเป็นวัว เราก็ต้องทำแบบวัว ถามว่าเราเป็นแบบไหน? ถ้าเราเป็นฆราวาสเราก็ต้องปฏิบัติธรรมแบบฆราวาสครับ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แม้เราจะไม่เหมือนกันแต่เราก็มีความเป็นกลุ่ม เป็นสังคมของเราอยู่ ดังนั้น เราต้องดูตัวเองให้ดีว่าเราเป็นแบบไหน? กลุ่มไหน? เราก็ปฏิบัติแบบนั้น สัตว์ทุกประเภทจะมี “ผู้นำ” หรือจ่าฝูงของมันอยู่ นำทางให้เราปฏิบัติตาม แต่เราต้องหาฝูงเราให้เจอ

๓ จ่าฝูงจะเป็นเหมือนเรา กลุ่มเรา
การปฏิบัติธรรมนั้นจะต้องมี “ผู้นำ” ที่ใช่ ที่ถูกต้องก่อน เหมือนสาวกทั้งหลายต้องไปหาพระพุทธเจ้าก่อนจึงจะเดินต่อไปได้ เช่นกันแม้ว่าเราจะยังไม่ได้นิพพานในชาตินี้ ไม่ได้เจอพระพุทธเจ้าแต่เราอาจเจอจ่าฝูงที่เป็นพระโพธิสัตว์ได้ ซึ่งจ่าฝูงจะต้องเหมือนเรา จ่าฝูงของเสือก็ต้องเป็นเสือ จ่าฝูงของวัวก็ต้องเป็นวัว จ่าฝูงของฆราวาสก็ต้องเป็นฆราวาสครับ หากเราไม่เข้าใจตรงนี้ เราจะหลงฝูง แหกคอก หรือหลุดหลงทางไปได้ครับ

๔ ไม่จำเป็นต้องบริสุทธิ์เหมือนพระ
หากชาตินี้ไม่ใช่ชาติสุดท้ายของคุณ คุณยังต้องมีชาติหน้าไปต่อ คุณก็ยังต้องทำกรรมต่อไป เอาง่ายๆ บ้านคุณ หนี้สินของคุณ รถของคุณ ฯลฯ “ผ่อนหมดหรือยัง?” ใช้หนี้หมดหรือยัง? ถ้ายัง ก็ต้องปฏิบัติแบบคนที่ยัง จะปฏิบัติแบบพระที่เขาปลดหนี้ทุกอย่างให้ตัวเองแล้ว ไม่ได้ เรายังไม่ใช่ชาติสุดท้าย เราก็ต้องมีกรรม ทำไม่ดีบ้างเป็นธรรมดา จะให้เลิศเลอเหมือนพระอรหันต์ก็ไม่ได้ ดังนั้น อย่าไปหลงธรรมะที่ดูดี สูงส่งเกินตัวครับ

๕ เลือกธรรมที่ปฏิบัติได้ในชีวิตจริง
“ชีวิตจริงๆ ณ ปัจจุบัน” น่ะละ คือ ธรรมะ ที่คุณต้องเผชิญหน้าและยอมรับ เช่น ถ้าชีวิตจริงคุณเป็นหนี้คุณจะทำอย่างไร? คุณจะนั่งหลับตาทำตัวเหมือนไม่รู้อะไรแบบพระสงฆ์เข้าสมาธิอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่แล้วละ คุณจะต้องทำงาน จะทำแบบพระไม่ได้ ธรรมใดที่ทำให้คุณประยุกต์ใช้ในชีวิตได้จริงๆ ไม่สูงส่งจนเว่อร์ไป แต่มันใช่สำหรับชีวิตจริงที่คุณเป็นอยู่ อันนี้ละครับ “ใช่” แสดงว่ามัน “พอดี” สำหรับคุณ คุณจึงใช้มันได้

๖ อย่าหลงกับภาพลักษณ์แต่ไม่จริง
เมื่อคุณค้นพบ “ทางที่ใช่” แล้ว คุณอาจถูกทดสอบศรัทธาว่าคุณแน่วแน่ในทางนั้นหรือไม่? คุณอาจได้เจอคนที่ดูดีกว่า ภาพลักษณ์ดีกว่า เปลือกนอกน่าศรัทธาหลงใหลมากกว่า คุณก็อาจหลงตามเขาไป เรียกว่าเจอทางที่ใช่แล้ว แต่ถูกหลอกล่อให้หลงออกนอกทางไป พวกที่หลอกล่อคุณ แน่นอนว่า “ต้องมีดี” พกมาเต็มตัว เพื่อที่จะหลอกล่อคุณให้หลงใหลให้ได้ จริงไหม? ดังนั้น พวกนี้จะดูดีมากๆ มีเปลือกน่าศรัทธามากๆ

๗ อย่าหลงกับคำหวานความคิดฝัน
เราต้องอยู่กับ “โลกแห่งความจริง” เราต้องตื่นโพล่งโล่งหลุดออกมาจาก “โลกแห่งความฝัน” โลกอุดมคติที่ดีงาม โลกในอุดมการณ์ของใครๆ ที่มีปรัชญาสวยหรูดูดีมากๆ เว่อร์ๆ แต่ชีวิตจริงมันใช้ไม่ได้ อันนี้เรียกว่าไม่อยู่บนโลกแห่งความจริงละ หลงออกไปอยู่บนโลกแห่งความฝันเสียแล้วครับ ทางที่ใช่ มันต้องอยู่บนความเป็นจริง แต่คนที่มาหลอกล่อให้คุณเป๋ออกไป เขาจะหลอกคุณด้วยสิ่งที่ดีกว่าแต่เป็นแค่ความคิดฝันครับ

ธรรมที่พอดี เมื่อคุณปฏิบัติจะสบายๆ เหมือนใส่เสื้อพอดีตัวครับ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

ปฏิบัติธรรมแล้วเพี้ยนจะแก้อย่างไร?

ผู้มีปัญญาแท้ไม่อ้างหลักธรรม

วิชามารคืออะไร?