อาจิณกรรมจากอาชีพที่คนคิดว่าไม่มี

หลายท่านคิดว่าเราทำอาชีพสุจริตย่อมไม่มีกรรม ไม่จริงครับ ทุกการกระทำย่อมมีกรรมเสมอ หากคุณทำโดยไม่หวังผล ทำเพื่อคนอื่น ก็จะเป็นบุญ แต่ถ้าทำเพื่อหารายได้เลี้ยงตัว “ทุกอย่างจะเป็นกรรมหมดเลย” จริงไมครับ ในบทความนี้จะขออธิบายเรื่องอาจิณกรรมจากอาชีพที่คุณคิดว่าไม่มี มีอย่างไร? ดังต่อไปนี้

๑ อาชีพหมอ

ทุกคนคิดว่าอาชีพหมอได้บุญ แต่ใจเย็นๆ ครับ มันจะได้บุญเมื่อคุณช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนเท่านั้น แต่หากทำเพื่อให้ได้รายได้ คือ ทำเป็นอาชีพเมื่อไร มันจะไม่มีบุญเลยไม่เกิดบุญเลย แต่จะเป็นกรรมแทน สรุปนะครับ อาชีพหมอคืออาชีพที่หากินกับเลือดเนื้อของมนุษย์ จะได้เงินได้ ต้องเอาเลือด เอาเนื้อเขา เช่น เอาเลือดเขาไปตรวจ, ผ่าเนื้อเขา, เอาเข็มทิ่มแทงเนื้อเขา ฯลฯ ดังนั้น เป็นอาชีพที่มีกรรมหนักกว่าอาชีพทั่วไป แต่ที่กรรมเบาบางลงได้เพราะ “จรรยาบรรณ” ครับ เมื่อหมอมีจรรยาบรรณ ไม่ทำตามใจตัวเอง แต่ทำตามคำสั่ง ทำตามหน้าที่เท่านั้น กรรมก็จะเบาลงได้ หมอบางคนตายแล้วไปเกิดเป็นนายนิรบาลในนรกครับ

                                                                                                                    

๒ การใช้สื่อ

หลายคนคิดว่าการใช้สื่อไม่มีกรรมอะไร บ้าสิ มันจะไม่มีกรรมอะไรได้อย่างไร? การจะไม่มีกรรมอะไรคือคุณไม่ทำอะไรนั่นละ แต่ถ้าคุณทำ คุณใช้สื่อเมื่อไร มันก็มีกรรมเมื่อนั้น เมื่อคุณไม่ได้ใช้สื่อเพื่อประโยชน์มวลชน แต่ใช้เพื่อประโยชน์ตัวเองเช่น เพื่อค้าขาย, เพื่อหาเงิน, เพื่อให้คนนิยมชมชอบ ฯลฯ มันก็คือกรรมเต็มๆ ไม่มีบุญเลยครับ กรรมนี้หนักไหม หนักมากครับเช่น คุณโชว์หน้าตาให้คนมาหลงรัก มาชอบ คุณทำกรรมให้เขามีกิเลสแล้ว ถามว่ากี่คนที่ถูกคุณใช้สื่อเล่นงาน โห เป็นหมื่นเป็นแสนนะครับที่เห็นสื่อ นี่ไง กรรมหนักไหมละ คนที่เรียนสื่อมาจะเข้าใจว่าการใช้สื่ออย่างมีจริยธรรมคืออะไร? แต่ปัจจุบัน หลายคนไม่ได้เรียนมาก็ใช้แล้ว

๓ การใช้เงิน

หลายคนคิดว่าเราใช้เงินซื้อของไม่มีกรรมอะไรเพราะมันไม่ผิดกฎหมายอะไร ไม่มีได้ไง การไม่ผิดกฎหมายไม่ได้แปลว่าจะไม่ผิดศีลธรรมหรือไม่มีกรรม การจะไม่มีกรรมคือคุณไม่ทำอะไรเลยน่ะละ นี่คุณทำ คุณใช้เงิน “ซื้อ” ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ การซื้อก็คือการทำกรรมโดยการใช้เงินเป็นอาวุธ ยิ่งคุณมีเงินมาก คุณซื้อมาก คุณก็ยิ่งมีกรรมมาก ทุกการซื้อของคุณ มีกรรมร่วมกับการผลิตสินค้าชนิดนั้นๆ เช่น สินค้าบางตัวต้องระเบิดภูเขา เอาหินแร่มาใช้ทำ คุณก็จะมีกรรมร่วมกับเขา คนมีเงินเยอะมีโอกาสก่อกรรมมาก คนที่ซื้อมาก ก็คือมีกรรมมาก ซื้อบ้านหลังเดียวมีกรรมมากมาย เพราะต้องระเบิดภูเขาเอาปูนซีเมนต์ ตัดต้นไม้มาใช้ทำครับ

๔ การใช้อำนาจ

เมื่อคุณมีอำนาจให้ใครทำอะไรตามใจคุณได้ ทุกการกระทำของเขา กรรมจะตกแก่คุณ แต่ถ้าเขาไม่ทำตามคำสั่งของคุณ กรรมจะตกที่เขาครับ ดังนั้น คนที่ยิ่งมีอำนาจ ก็ยิ่งมีกรรมมาก ดังนั้น ยุคนี้ เขาเลยให้ผลัดกันไปทำงาน ผลัดกันมีอำนาจ เพื่อให้โอกาสทุกคนได้รอดจากกรรมหนักนี้ ระบบการเมืองการปกครองเขาทำดีแล้ว แต่บางคนก็ชอบการผูกขาด ไม่ยอมปล่อยวางอำนาจกรรมของเขาจะหนักมาก ผู้เขียนได้พบวิญญาณอดีตกษัตริย์ไทย, อดีตประธานาธิบดีอเมริกา แต่ละท่าน “ไม่รอด” เป็นเวตาลบ้าง เป็นซอมบี้บ้าง ทั้งที่ยามมีชีวิต พวกเขายิ่งใหญ่มากมาย สร้างผลงานมากมายครับ ดังนั้น ผู้เขียนเลยเตือนเสมอเรื่องการใช้อำนาจ

๕ การขอ

หลายคนคิดว่าการขอนั้นไม่มีกรรมอะไร แต่ไม่จริงครับ หากคุณไม่ขออะไรใครแล้วเขาให้เอง คุณก็ไม่ได้ทำกรรม แต่หากคุณทำกรรมด้วยการขอเมื่อไร กรรมก็จะเกิดทันที หนักหรือเบาอยู่ที่สิ่งที่คุณขอครับ ถ้าคุณขอผลไม้, ของกิน แบ่งปันฉันหน่อย แบบนี้กรรมเบา ไม่มาก ไม่เกินขอบเขตของมนุษย์จะรับได้ครับ แต่ถ้าคุณขอให้เขาพลีชีพเพื่อชาติ ขอให้เขาทำงานเพื่อชาติแล้วเขาต้องไปตาย แบบนี้ เท่ากับขอชีวิต ก็กรรมหนักละ คนที่ขอมาก จะกลายเป็น “พญาเปรต” คนที่ขอน้อยอาจเป็นแค่สัมภเวสีครับ ภิกษุจะไปเดินขอนั่นนี่ ชี้เอา ให้โยมเอานั่นนี่ให้ตน ไม่ได้ แม้แต่โยมจะให้อะไร ภิกษุยังบอก ยังใบ้ไม่ได้เลย ต้องให้เขาให้ของเขาเองครับ

ด้วยเหตุนี้การอยู่อย่างภิกษุ ธุดงค์ไปไม่มีกุฏิ ย่อมมีกรรมน้อยครับ