วิถี “สาวกยาน” วิถีแห่งความปลอดภัย

ยุคนี้เป็นยุคของพระพุทธเจ้ามิใช่ยุคของของพระปัจเจกพุทธเจ้า คนที่ปฏิบัติธรรมเองไม่ต่อสายจากพุทธที่แท้จริงนั้น เสี่ยงที่จะเข้าสู่วิถีปัจเจกมาก และส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย เพราะมิใช่ยุคของพระปัจเจกพุทธเจ้าจะถือกำเนิดได้ในตอนนี้ ในบทความนี้จะขออธิบายเรื่อง “สาวกยาน” ดังต่อไปนี้ครับ

  

๑ วิถีแห่งสาวกยานคืออะไร?

วิถีแห่งสาวกยานคือ วิถีที่เรายอมเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าแล้วเดินตามรอยพระพุทธเจ้า มิใช่ตั้งตนเป็นพระพุทธเจ้า, ศาสดาเสียเอง, เร่หาสาวกเสียเอง ไม่ใช่แบบนั้น พระอรหันตสาวก มีความเป็นสาวกยาน ที่เชื่อฟังและศรัทธาพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันอย่างแท้จริง เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่อาจตรัสรู้เองได้ จะต้องอาศัยพระพุทธเจ้ามาโปรด จริงอยู่ที่พูดว่าคนเราเท่าเทียมกัน แต่คนเราก็มีความหลากหลายอันแตกต่างกันไป จะบอกว่าเราก็เท่ากับพระพุทธเจ้า เราก็เป็นพุทธะ ทุกคน ไม่ว่าหมาแมวก็พุทธะเหมือนกันหมด แล้วก็หลงตัวเอง ทำตัวเสมอพระพุทธเจ้าแต่เนียนว่าไม่หลง ย่อมมิใช่ทางแห่งสาวกยานอย่างแน่นอน

๒ ทำไมต้องเข้าสู่วิถีสาวกยาน?

เพราะทางที่เราไม่เคยเดินมาก่อน สมมุติให้คุณเดินป่าเองดู คุณจะรอดไหม? คุณจะไม่หลงได้หรือเปล่า? นี่แค่เดินป่านะ แต่ทางสู่ความหลุดพ้นนั้นยิ่งกว่าเดินป่าเสียอีก ดังนั้น หากคุณเดินเอง หลงแน่นอน หลงอย่างแรกคือ “หลงตัวเอง” หลงว่าตัวเองก็คิดได้เองนี่หว่า ตัวเองก็เป็นอย่างพระพุทธเจ้า หาสาวกบริวารมากราบไหว้ได้นี่หว่า? อันนี้แหละ ความหลง สุดท้าย ก็จะต้องพบหายนะแน่นอน ดังนั้น นี่คือ เหตุผลที่เราควรเข้าสู่วิถีสาวกยาน หากเรามีกำลังอ่อน ไม่ไหวจริงๆ หลายคนไม่เจียมตัว ไม่ประมาณตน คิดว่าเราก็ทำอย่างท่านได้ เป็นอย่างพระพุทธเจ้าได้ จริงอยู่ มันมีคนที่ทำได้จริงแต่หนึ่งในล้านล้านเลยครับ มันไม่ใช่ง่ายๆ อย่างนั้น

๓ การแตกแถวออกไป ผลคือ?

การแตกแถวออกไปในที่นี้ หมายถืง ผู้ไม่ยอมต่อสายธรรมพุทธที่ถูกต้องแท้จริงของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แล้วแตกแถวออกไป “หาสัจธรรมเอง” เหมือนพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งๆ ที่ยังไม่ใช่ของพระปัจเจก ทั้งนี้ ความเป็นปัจเจกพุทธะนั้นมิใช่ต้องไม่มีสาวกบริวารนะ บางคนมีสาวกบริวารมากมายก็มีครับ แต่โปรดให้หลุดพ้นแบบพระพุทธเจ้าทำ ไม่ได้ ก็แค่นั้นเอง เอาละ ทีนี้ หากแตกแถวออกไป ผลจะเป็นอย่างไร? ผลก็คือ “โดน” เล่นงานครับ เล่นงานเพื่อไม่ให้ได้เป็นพระปัจเจกฯ ผิดยุค เบาๆ คือ โดนหลอก หนักๆ คือ โดนเก็บ ตายเลย

๔ ตัวอย่างการแตกแถวออกไป

ยกตัวอย่างคนที่แตกแถวออกไป บางคนจะถูกครอบงำ ถูกหลอกว่า “ท่านบรรลุธรรมแล้ว” เพื่ออะไร? เพื่อเขาจะได้หยุดปฏิบัติ จะได้ไม่ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกนั่นเอง วิธีการคือ เขาจะดลจิตดลใจคนมาห้อมล้อม มากราบไหว้เราเต็มไปหมด ราวกับเราเป็นพระอรหันต์อย่างนั้น บางคนรู้ตัว บางคนเบื่อหน่าย บางคนหลุดมาได้ด่านนี้ แล้วเจอด่านที่น่ากลัวกว่าคือ “เขาจะเก็บให้ตายเลย” เพราะหากมีพระปัจเจกตรัสรู้ผิดเวลา โลกนี้จะแปรปรวน เกิดภัยพิบัติมากมายทันที เขาเลยต้องเก็บ บางคนก็ทรุดป่วยหนักเฉยๆ ทั้งที่ไม่ควรจะเป็นก็มี บางคนก็ถูกครอบงำให้มีคู่เสีย เขาเอาคู่มาให้ เพื่อให้เราไม่อาจตรัสรู้ได้ เขาจะเล่นงานเราทุกวิธีเลยละครับ

๕ ไม่เอาสายสาวกยานได้ไหม?

ได้ครับ “แต่ต้องมีกำลังแก่กล้าก่อน” หลายคนไม่มีกำลังแก่กล้าพอ มันไปไม่ไหวจริงๆ แต่ถ้าแก่กล้าแล้ว ก็เลือกได้ครับว่าจะเอาอะไร สาวกยาน, ปัจเจกยาน หรือโพธิยาน มีอยู่สามยานนี้หละ หลายคนเป็นภาคแบ่งมาจากพระโพธิสัตว์ เลยพยายามอยู่ใน “โพธิยาน” ทว่า กำลังบารมีอ่อน ไปไม่ไหว แบบนั้นต้องกลับมาเริ่มที่ฐานใหม่ คือ เริ่มจากสาวกยานก่อน เอาฐานให้แน่น แล้วชาติต่อๆ ไปค่อยมาต่อบารมี เหมือนหลวงพ่อในไทยหลายๆ องค์ ท่านเป็นภาคแบ่งของพระโพธิสัตว์ แต่ลงมาเริ่มต้นที่สาวกยาน เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าก่อน จากนั้น ชาติต่อไปท่านค่อยเข้าสู่โพธิยานได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไปตามกำลังครับ

                             

การใจร้อน ลัดขั้น เร็วเกินไป รังแต่จะนำไปสู่หายนะเท่านั้นเองครับ