พระพุทธเจ้าไม่ได้จะมาอยู่บนโลก?
หลายคนคิดว่าจะมีพระพุทธเจ้ามาโปรดสัตว์ในโลก
สร้างโลกให้สวยงามเหมือนดั่งคำทำนายในยุคพระศรีอาร์ฯ อะไรทำนองนั้น ทว่า
พระพุทธเจ้าไม่ได้มีหน้าที่สร้างโลกครับ หน้าที่สร้างโลกอาจเป็นของเทพ อาทิ
พระพรหม แต่ไม่ใช่หน้าที่ของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้มาเพื่อสร้างโลก ดังจะอธิบายต่อไปนี้ครับ
๑ โลกนี้ไม่ใช่ที่อยู่
ไม่ใช่บ้านแท้จริง?
ในบทความก่อนๆ
ได้บอกแล้วว่าโลกนี้มิใช่บ้านที่แท้จริง โลกนี้ถูกสร้างเพื่อ “การชำระ” เราทุกคนลงมาเกิดในโลกนี้เพื่อ
“ชำระสะสางตัวเราเอง” เมื่อเราได้รับการชำระแล้ว
เราก็พร้อมที่จะกลับคืนสู่บ้านที่แท้จริงของเรา ถามว่าเชื่อได้แค่ไหน?
ก็ลองดูเอาครับว่าโลกนี้แปรปรวนแค่ไหน? ขนาดที่หลายคนคิดว่าโลกจะแตกคือ
“วันสิ้นโลก” กำลังมาด้วยซ้ำไป นี่ไงครับ ประจักษ์พยานที่ทุกคนก็รับรู้ได้ว่าโลกนี้ไม่เที่ยง
ไม่อาจอยู่ได้นาน ไม่ใช่บ้านที่เราจะอยู่ได้อย่างแท้จริงตลอดไป ดังนั้น
ไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ใดจะมาสร้างโลกนี้เพื่อให้อยู่ร่วมยุคกันอย่างมีความสุขหรอก
คุณต้องเข้าใจใหม่ พระพุทธเจ้ามิได้จะมาเพื่ออยู่ในโลกนี้ที่ไม่ใช่บ้านแท้จริง
๒ พระพุทธเจ้ามาโปรดในโลกนี้คือ?
คำถามต่อมาคือ
“แล้วที่ว่าพระพุทธเจ้ามาโปรดในโลกนี้ คืออะไร?” เช่น
ตามคำทำนายว่าจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีกมากมายในอนาคตกาล? คำตอบก็คือ
พระพุทธเจ้าย่อมจะอยู่ในพุทธเกษตรโลกธาตุอันเป็นโลกของท่าน จากนั้นท่านจะ “แบ่งภาคอวตาร”
ลงมาโปรดสัตว์ในโลกนี้หลายภาค ภาคแรกคือ “ศาสดา” จะมาบอกเรื่องราวต่างๆ เพื่อเป็นการเริ่มต้น
“พุทธันดร” นั่นเอง จากนั้นจะมีภาคอวตารอื่นๆ มาอีกมากมาย เพื่อ “ปกครองธรรมกาล”
ให้ได้ยาวนาน บางองค์ได้หลายหมื่นปีเลย เช่น พระศรีอาร์ฯ ได้แปดหมื่นปีมนุษย์ครับ
ไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ใดลงมาเพื่ออยู่ในโลกนี้ ท่านมีแต่จะให้
“ตื่นแจ้งแล้วหลุดพ้นจากโลกนี้” ต่างหากครับ
๓ เราสามารถบรรลุพุทธะในโลกได้ไหม?
ได้แน่นอน
สำหรับผู้ที่พร้อมจะบรรลุพุทธสภาวะ จะลงมาเกิดในโลกนี้ บำเพ็ญเพียรแล้วสำเร็จเป็นพุทธะ
จากนั้น จะไม่สร้างอะไรให้เกิดกรรมพัวพันตน ท่านจะอยู่เหมือน “เนื้อนาบุญของโลก”
เหมือนพระที่ไม่มีงานทำ ไม่ทำกรรมอะไร จากนั้นจะ “หลุดพ้นจากโลก” แล้วไปเกิดยังพุทธเกษตรครับ
เราทุกคนสามารถที่จะบรรลุพุทธสภาวะได้เท่าเทียมกัน เมื่อเราบรรลุแล้วจะไม่ทำอะไร
อยู่แบบพระ แล้วไปเกิดยังพุทธเกษตร ไม่ใช่ว่าให้เรามาทำตัวเป็นศาสดา,
สร้างศาสนาใหม่ ฯลฯ อะไร เพราะการทำเช่นนั้น
ทำให้เกิดกรรมผูกมัดเราและสาวกทั้งหลาย เหตุนี้ พระพุทธเจ้าที่อยู่พุทธเกษตรท่านจึงใช้การแบ่งภาคอวตารลงมาเป็นศาสดา
๔ การแบ่งภาคอวตารของพระพุทธเจ้า?
เหตุผลที่พระสมณโคดมไม่กล่าวเรื่องการแบ่งภาคอวตารของพระพุทธเจ้านั้น
ก็เพราะยุคนั้นมีพราหมณ์อยู่มากมายที่มีความเชื่อเรื่องการแบ่งภาคอวตารของ
“เทพฮินดู” อยู่ก่อนแล้ว หากกล่าวเรื่องการแบ่งภาคอีก ก็จะเกิดปัญหาตามมาได้
พระสมณโคดมจำต้องใช้ “สมมุติบัญญัติใหม่” เช่น คำว่า “นิพพาน” และหลายๆ คำ ทว่า
แท้แล้วจุดมุ่งหมายก็ไม่ต่างกัน พราหมณ์สอนเรื่องโมกษะคือความหลุดพ้น
พุทธศาสนาก็สอนให้เราหลุดพ้นไม่ต่างกัน แต่เพื่อเลี่ยงปัญหากับพราหมณ์ในยุคนั้น
พระสมณโคดมจำต้องแยกตัวออกมาสร้างศาสนาพุทธ และมีคำศัพท์เรียกในแบบของตัวเอง
เช่นนี้ ก็ไม่ต้องมัวนั่งเถียงเรื่องโมกษะกับพราหมณ์ครับ
๕ พุทธะในโลกโปรดสัตว์อย่างไร?
ดังที่กล่าวแล้วว่าพระพุทธเจ้านั้นอยู่
ณ พุทธเกษตรโลกธาตุ แล้วแบ่งภาคอวตารลงมาโปรดสัตว์ในโลกนี้ เมื่อแบ่งภาคออกมาเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว
เกิดยังโลกนี้ บำเพ็ญบารมีในโลกนี้ ก็สามารถสำเร็จพุทธะได้อีก
เมื่อสำเร็จพุทธะได้แล้วก็จะโปรดสัตว์ หากมนุษย์สำเร็จพุทธะตามๆ กันไปได้มากมาย
พุทธะทั้งหมดก็จะมีที่ไปคือ “พุทธเกษตร” นั่นเอง ทั้งหมดจะหลุดพ้นจากโลกนี้ไปสู่พุทธเกษตร
แต่ไม่ได้แปลว่านิพพานแล้วดับสูญ หายต๋อม กลายเป็นความว่างเปล่าไป ไม่ใช่นะครับ
อันนี้
กล่าวหลายครั้งแล้วว่าอย่าหลงทางเข้าสู่ทางลัทธินิรัตตาที่เชื่อว่าทุกอย่างไม่มีจริง
ล้วนว่างเปล่าหายสูญ หลวงพ่อฤษีลิงดำก็บอก “ตายแล้วไม่สูญ” ครับ
ตื่นแจ้งโลกเสียที
โลกนี้มิใช่ที่จะยึดมั่นถือมั่นอยู่ได้ตลอดไปครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น